LIEKR:
#นายกไทย เป็น "ทหาร" #นายกภูฏาน เป็นหมอ"สำหรับบางคน อาจเป็นออกรอบกอล์ฟ ยิงธนู แต่ผมชอบผ่าตัด ผมใช้เวลาช่วงเวลาสุดสัปดาห์ที่นี่" มีงานนอกเวลา เป็นหมอรักษาคนไข้ ทั้งชีวิตมอบให้ประชาชน!
นายโลเท เชอร์ริง ขึ้นทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรีภูฏาน เมื่อปีที่แล้ว หลังชนะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครั้งที่สามของประเทศ นับจากสิ้นสุดระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปี 2551
แต่เมื่อถึงวันเสาร์ นายกฯเชอร์ริงจะกลับไปทำหน้าที่คุณหมอรักษาคนไข้ที่โรงพยาบาล Jigme Dorji Wangchuck National ซึ่งนายกรัฐมนตรีวัย 50 ท่านนี้กล่าวว่า คือนี่การปลดปล่อยความเครียดของเขา
Sponsored Ad
“สำหรับบางคน อาจเป็นออกรอบกอล์ฟ ยิงธนู แต่ผมชอบผ่าตัด ผมใช้เวลาช่วงเวลาสุดสัปดาห์ที่นี่” นายกฯภูฏานกล่าว
ไม่มีใครที่โรงพยาบาลเลิกคิ้วหรือมีสีหน้าประหลาดใจ ขณะนายกฯเชอร์ริงสวมชุดกาวน์เดินไปตามระเบียงที่วุ่นวาย ทุกคนทำงานกันตามปกติ
Sponsored Ad
Bumthap คนไข้วัย 40 ปีที่เข้ารับการผ่าตัดกระเพาะปัสสาวะ 5 ชั่วโมง บอกเอเอฟพีว่า เขายิ่งกว่าโล่งใจ เพราะได้รับการผ่าตัดจากนายกรัฐมนตรี ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมอเก่งที่สุดคนหนึ่งของประเทศ
Sponsored Ad
นายกฯเชอร์ริง เรียนแพทย์ที่บังกลาเทศ ก่อนไปศึกษาต่อที่ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา เริ่มเล่นการเมืองในปี 2556 แต่พรรคของเขาพ่ายเลือกตั้งในปีนั้น
หลังสอบตกเลือกตั้ง สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ทรงมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยแพทย์ตามเสด็จพระองค์และคณะ ไปยังหมู่บ้านห่างไกลความเจริญ เพื่อให้บริการรักษาไม่มีค่าใช้จ่าย
เมื่อชนะเลือกตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็ยังใช้เวลาทุกวันเสาร์ รักษาผู้ป่วยที่ถูกส่งไปให้รักษา ส่วนเช้าวันพฤหัสบดี ให้คำแนะนำแก่แพทย์ฝึกหัดและแพทย์ทั่วไป วันอาทิตย์จึงเป็นเวลาครอบครัว
Sponsored Ad
ที่สำนักงานของนายกรัฐมนตรี จะมีชุดหมอแขวนไว้ด้านหลังเก้าอี้ เพื่อใช้เป็นเครื่องเตือนใจถึงการให้คำสัญญาตอนเลือกตั้งว่าจะมุ่งยกระดับการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาล
Sponsored Ad
ที่ภูฏาน ผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลโดยตรง กระนั้น นายกรัฐมนตรีเชอร์ริงมองว่ายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ
แม้ประเทศเล็กๆแห่งนี้ ได้รับการปรับปรุงจนอายุขัยยืนยาวขึ้น อัตราการตายของทารกลดลง และขจัดโรคติดต่อได้หลายโรค แต่โรคภัยไข้เจ็บจากรูปแบบการใช้ชีวิต อาทิ ติดเหล้า และเบาหวาน ยังเพิ่มสูงขึ้น “เวลานี้ เราต้องพุ่งความสนใจไปที่การดูแลขั้นที่สองและสาม”
ทำงานการเมืองกับการเป็นหมอสำหรับนายกรัฐมนตรีภูฎานมีความเหมือนกันมาก “ที่โรงพยาบาล ผมสแกนและรักษาคนไข้ ส่วนในรัฐบาล ผมสแกนสุขภาพของนโยบายและพยายามทำให้ดีขึ้น” และว่า จะทำแบบนี้ไปจนกว่าจะตาย และคิดถึงเวลาที่ไม่สามารถมาที่นี่ได้ทุกวัน
ในวันทำงาน นายกฯเชอร์ริงจะขับรถไปทั่วกรุงทิมพูด้วยตนเอง แทนการใช้คนขับรถประจำตำแหน่ง “เมื่อใดขับรถไปทำงานในวันปกติ ผมหวังเลี้ยวซ้ายไปยังโรงพยาบาลทุกที”
ข้อมูลและภาพ จาก komchadluek / posttoday
