เงินไม่ใช่เป้าหมาย! จากเด็กที่ถูก ทิ้ ง ล ง ถังขยะ สู่ผู้ก่อตั้งบริษัทที่มีมูลค่าเกือบ 2 พันล้านบาท

LIEKR:

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้..

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ

        เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Freddie Figgers ชาวอเมริกันวัย 29 ปีคนนี้ คือเจ้าของบริษัทเทคโนโลยี ที่มีมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท

        แต่หากย้อนกลับไปในวันที่เขาเกิด หลังจากที่แม่คลอดออกมาได้ไม่นานก็ตัดสินใจที่จะทิ้งเขาที่ยังเป็นเด็กทารกเอาไว้ในถังขยะ แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยเอาไว้ได้ทัน หลังจากนั้น 2 วันเขาก็ถูกคนใจดีรับมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม

 

Sponsored Ad

 

        Nathan และ Betty Figgers เป็นครอบครัวที่รับเด็กทารกที่ถูกทิ้งไว้ในถังขยะมาเลี้ยง และฟูมฟักด้วยความรัก พร้อมสนับสนุนทุกอย่างราวกับว่าเขาเป็นลูกในไส้จริงๆ

 

Sponsored Ad

 

        วันเวลาผ่านไปเด็กชายคนนั้นก็เริ่มฉายแววความฉลาดออกมา ในวัย 9 ปี Freddie ได้รับคอมพิวเตอร์เป็นของขวัญของตัวเอง แต่ทว่ามันเป็นคอมเก่าๆ ที่ไม่สามารถใช้งานได้แล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เขาพยายามซ่อมด้วยตัวเอง จนมันสามารถกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ด้วยเหตุนี้เองอีก 3 ปีต่อมา เขาก็กลายเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ด้วยวัยเพียง 12 ปีเท่านั้น

        Freddie เป็นคนที่มีความสนใจในเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก เขามุ่งมั่นทำงานเก็บเงิน และพัฒนาความรู้ของตัวเอง จนในที่สุดอีก 3 ปีต่อมาเขาก็สามารถสร้างระบบบริการข้อมูลคลาวด์เป็นของตัวเองได้ในที่สุด

 

Sponsored Ad

 

        ซึ่งไอเดียนี้มันมาจากการที่บริษัทขายรถมือสองใน Alabama ต้องสูญเสียข้อมูลของลูกค้าไปทั้งหมด จากเหตุพ า ยุ ท อ ร์ น า โ ด ถ ล่ ม เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก 

 

Sponsored Ad

 

        Freddie ในวัย 15 ปี ก็เลยช่วยเหลือบริษัททำการแบ็กอัปข้อมูลของลูกค้ากลับมาไว้ในเซอร์เวอร์คลาวด์ และทั้งหมดนี้เขาทำมันที่สวนหลังบ้านของตัวเอง

        เมื่อความทรงจำของคุณพ่อถูก ทำ ล า ย ด้วย โ ร ค ร้ า ย ลูกชายก็เลยอยากให้พ่อปลอดภัย Freddie ได้ทำการคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์สุดล้ำขึ้นมา เป็นรองเท้าแบบพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือคุณพ่อที่ ป่ ว ย เป็นโ ร ค อั ล ไ ซ เ ม อ ร์โดยเฉพาะ ซึ่งเจ้ารองเท้าที่ว่านี้มันทำหน้าที่เหมือนเป็น GPS ที่เอาไว้ติดตามตัวพ่อของเขาได้ และสามารถเป็นอุปกรณ์สื่อสารแบบไปกลับได้อีกด้วย

 

Sponsored Ad

 

        “ผมสามารถหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และโทรหารองเท้าเพื่อถามว่าตอนนี้พ่ออยู่ที่ไหน และพ่อแทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นอนลงและพูดกับเจ้ารองเท้าคู่นี้ ผมก็สามารถติดตามตัวพ่อเจอได้แล้ว โปรแกรมที่ผมประดิษฐ์ขึ้นมานี้มันประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีบริษัทติดต่อมาหาผมจาก Kansas และเขาก็ตัดสินใจที่จะซื้อมันในราคา 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (67 ล้านบาท)” Freddie อธิบาย

 

Sponsored Ad

 

        หลังจากนั้น Freddie ก็ใช้เงินที่ได้มาจากการขายโปรแกรมช่วยเหลือผู้ ป่ ว ย โ ร ค อั ล ไ ซ เ ม อ ร์มาตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง บริษัทที่ว่านี้มีชื่อว่า Figgers Communications เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโทรคมนาคม นอกจากนี้ก็ยังมีการพัฒนาและสร้างเทคโนโลยีต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย

        ไม่ว่าจะเป็นระบบต่อต้านการส่งข้อความในระหว่างขับรถ โทรศัพท์มือถือที่สามารถตรวจจับระดับน้ำตาลกลูโคสของผู้ใช้งาน เพื่อใช้ช่วยเหลือเหล่าผู้คนที่ ป่ ว ย เป็น โ ร ค เ บ า ห ว า น ได้ ซึ่งตอนนี้บริษัทของเขามีมูลค่ากว่า 62 ล้านเหรียญ (ราว 1,876 ล้านบาท) เข้าไปแล้ว

Sponsored Ad

        สำหรับ Freddie แล้ว เขาคิดว่าความสำเร็จของเขามันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเรื่องของเงินแต่อย่างใด แต่เป็นการที่เขาสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา เพื่อทำให้โลกใบนี้มันน่าอยู่มากขึ้นต่างหาก

        “ผมเปลี่ยนดูแลให้กลายมาเป็นการกระทำที่สามารถเห็นผลได้ และเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนที่ต้องการความช่วยเหลือให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีมากยิ่งขึ้น ผมต้องการที่จะสร้างแรงกระเพิ่มให้กับโลกของเรา และอยากจะเปลี่ยนแปลงให้โลกของเราในวันพรุ่งนี้ ดีกว่าในวันนี้ เงินไม่ใช่เป้าหมาย แต่เป็นเครื่องมือ ด้วยเครื่องมือนี้ เราจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตของผู้คนได้” Freddie กล่าวทิ้งท้าย

ชมคลิป..

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก Figgers Wireless, catdumb

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ