เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งคนในวงการบันเทิงมากความสามารถ สำหรับ เข็ม-รุจิรา ช่วยเกื้อ นักแสดงสาววัย 39 ปี ที่ห่างหายไปจากจอทีวีนานกว่า 2 ปี เลยทีเดียว 

    โดยเมื่อไม่นานมานี้เธอก็ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการ คุยแซ่บ Show เผยว่า หลังจากทำงานหนักมากมาหลายปีตั้งแต่อายุ 16-17 ปี รู้สึกเหนื่อยมาเยอะ รู้สึกขี้เกียจ และอยากพัก ที่หายไป 2 ปี ก็เพราะเลือกไปใช้ชีวิตสนุกสนาน เที่ยวเล่น ดื่มเหล้า เดินทางไปต่างจังหวัด ต่างประเทศ ไม่รับบทละคร เรียกว่าละลายทรัพย์ที่หามาได้ไปถึงหลักล้าน

    แต่ก่อนที่ตนที่จะสูญเสียเสียทรัพย์สินเงินทองไปมากกว่านี้ ค้นพบสติตอนตื่นนอนที่บ้านว่า "ทุกคนออกไปทำงานหมด แล้วตัวเราเองล่ะทำอะไรอยู่" หลังจากนั้นได้เข้าสู่เส้นทางธรรมะ โดยคนรู้จักชักชวนไป ซึ่งก็ทำให้ตนได้ค้นพบว่าวิธีสร้างคุณค่า สร้างความสุขให้แก่ตัวเอง ซึ่งทุกอย่างนั้นล้วนอยู่ที่ความคิดของเรา

    ตั้งแต่นั้นก็เริ่มปฏิวัติตัวเองใหม่ จากเดิมที่ใช้ของแบรนด์เนมแพง ๆ ใส่รองเท้าส้นสูงราคา 4 หมื่น ใช้เงินต่อเดือนถึง 6 แสนบาท ก็เริ่มเปลี่ยนไป กลายเป็นคนรู้จักใช้เงิน ไม่ยึดติดหรู มองแค่ว่า "กระเป๋าใช้ทำอะไร เสื้อทุกตัวไม่ว่าราคาไหนก็ใช้เพื่อปกปิดร่างกายเหมือนกัน"

    หลังจากนั้นตนจึงนำของทั้งหมดมาขายต่อบนออนไลน์ในราคาเพียงหลักพัน เพื่อให้คนที่เขาต้องการใช้จริง ๆ ซึ่งตนก็มองว่านี่เป็นการแบ่งปันให้กับคนอื่นเช่นกัน

    นอกจากนี้สาวเข็มยังเผยถึงบั้นปลายชีวิตของเธอด้วยว่า ตนและครอบครัวจะย้ายถิ่นฐานจากกรุงเทพฯ ไปปักหลัก สร้างรีสอร์ทเล็ก ๆ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่เลือกเชียงใหม่ก็เพราะวัดที่ไปปฏบัติธรรมอยู่ที่เชียงใหม่นั่นเอง ตนต้องการใช้ชีวิตสงบ แต่คิดว่ายังคงทำงานอยู่ในวงการบันเทิงเช่นเดิม เหมือนนักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง อาหนิง-นิรุตติ์ ศิริจรรยา ที่ย้ายไปอยู่จังหวัดจันทบุรี

    ท้ายที่สุดเธอก็ค้นพบคำตอบของตัวเองแล้วว่า บั้นปลายชีวิตของเธอต้องการแค่ได้ใช้ชีวิตที่สงบ มีความสุข ไม่เดือดร้อนใคร 

    โดยที่ผ่านมาสาวเข็มก็มักจะโพสต์คำสอนต่าง ๆ ลงบนอินสตาแกรมของเธอ เพื่อแชร์ให้กับแฟนคลับที่ติดตามเธออีกด้วย ซึ่งก็มีประโยชน์มาก ๆ ทำให้หลายคนได้เปลี่ยนมุมมองความคิดในการใช้ชีวิตเลยทีเดียว

    "#สุขแท้ที่ยั่งยืน คือสุขที่เกิดจากการปรุงแต่งน้อยที่สุด เมื่อชีวิตมันธรรมดา ก็จงใช้ให้มันเป็นธรรมดาเสีย การดิ้นรนแสวงหา ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนักบนหลักศีลธรรม มีมากไปก็ทุกข์เพราะหวงแหน มีน้อยก็ทุกข์เพราะอาจไม่พอกับความจำเป็น ใช้ชีวิตให้อยู่บนทางสายกลางเสีย ไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่เบียดเบียนใคร ไม่อยากได้อยากมีสิ่งใดเกินความจำเป็น นี่แหละ สุขแท้ที่ยั่งยืน

    #เครื่องเจียระไน ความยากลำบากบางช่วงบางตอนของชีวิต ก็เปรียบเหมือนเครื่องเจียระไน ถ้าผ่านมันไปได้ เราก็เหมือนเครื่องเพชรที่ถูกเจียระไนบ้างแล้ว #วันใหม่แล้วสดใสได้

    ถ้าชีวิตคนหนึ่งคน เปรียบเหมือนหนังสือหนึ่งเล่ม ตอนจบของหนังสือเล่มนั้น จะสุขหรือเศร้า เราคือผู้ประพันธ์"

ที่มา : praew, IG/khemm___