เรียกได้ว่าผ่านมรสุมชีวิตมาเยอะเลยจริงๆ สำหรับ พิธีกรฝีปากกล้า "กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ" ที่หลังจากก้าวเข้าวงการมา 20 ปี ด้วยความเป็นคนที่พูดตรง พูดแรงของเธอ ทำเอาเธอต้องเจอกับเหตุการณ์มากมายในชีวิต ก่อนที่ล่าสุดโดนระงับโฆษณาอาหารเสริม ก่อนโดนเรียกไปสอบสวนปมโฆษณาเกินจริง หลอกลวงผู้บริโภค

    ต้องบอกเลยว่าเธอ สาวกาละแมร์ นั้นมักจะมีมรสุมชีวิตเข้ามาอยู่เสมอ แต่เธอก็สู้และผ่านมาได้ตลอด แต่งานนี้เหมือนจะเป็นปัญหาครั้งใหญ่เลยก็ว่าได้ ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าเรื่องจะจบยังไง ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน พันหมื่นเหตุผล ก็อยากจะพาทุกท่านไปรู้จักเธอกันให้มากกว่านี้ ว่าช่วงชีวิตของเธอนั้นผ่านอะไรมาบ้าง 

    กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ เธอเข้าวงการจากการเป็น พิธีกร-นักข่าว โดยปัจจุบันเธอมีอายุ 45 ปี เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะนิเทศศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน เธอได้แจ้งเกิดจากการเป็นพิธีกรรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง และมีชื่อเสียงจากการเขียนหนังสือถึงคุณผู้ชายหลายเล่ม ทั้งยังมีผลงานภาพยนตร์อยู่บ้างประปราย

    โดยจากที่สื่อทำข่าวออกมา ในส่วนใหญ่สาวกาละแมร์ดูจะแฮปปี้กับชีวิตโสดมาก และออกตัวเป็นคนเลือกเยอะ–เรื่องเยอะเรื่องผู้ชาย เพราะอยากได้คนที่ใช่และเข้าใจเธอจริงๆ ทั้งยังบอกว่า ถ้าอยู่คาน 100 ล้าน ไม่ต้องมีผู้ชายก็ได้ 

    เธอสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้แบบมีความสุข ในตอนนี้เธอมักจะโดนจับเป็นคู่จิ้นรุ่นใหญ่กับพิธีกรหนุ่มหนวดงาม น้าเน็ก ทั้งคู่สนิทกันจากการทำงานร่วมกัน และเข้าขากันได้เป็นอย่างดี เป็นเพื่อนสนิทที่แลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นได้ในหลายๆ เรื่อง ทำเอาแฟนคลับจิ้นและแซวว่าเหมือนคู่แฟนอยู่บ่อยครั้ง

    นอกจากจะเก่งในเรื่องงานพิธีกรแล้ว เธอยังมีหัวคิดด้านการทำธุรกิจ เป็นนักอสังหาริมทรัพย์คอนโดกลางกรุง อีกทั้งเธอยังเคยเปิดเผยมุมมองการวางแผนการใช้ชีวิต ที่ทำให้เธอก้าวหน้าและประสบความสำเร็จอย่างที่เธอต้องการ ทั้งยังเคยออกมาเปิดใจว่าเธอได้ทำสำเร็จตามความฝันแล้ว มีคอนโดฯ ราคา 100 ล้าน และมีเงินเก็บใกล้ที่จะถึงพันล้านแล้ว

    หลังจากที่หลายคนในวงการบันเทิงเริ่มหันมาเอาดีในด้านการทำธุรกิจ แน่นอนว่าสาวกาละแมร์ก็ทำกับเขาด้วย เป็นที่รู้กันดีว่าเธอเป็นหนึ่งในสาวรักสุขภาพ และมักจะดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ รวมทั้งมีความสนใจการทำธุรกิจด้วยแล้ว เธอจึงได้เริ่มทำธุรกิจเพื่อสุขภาพ ที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ สินค้าของเธอได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดีในกลุ่มคนรักสุขภาพ

    เมื่อเลือกที่จะเปิดเผยตัวตน ขึ้นชื่อว่าเป็น "พิธีกรฝีปากกล้า" แล้วก็คงหนีไม่พ้นดราม่าต่างๆ อย่างเมื่อปี 60 ที่ผ่านมาเธอโดนเหล่าแฟนคลับศิลปินชื่อดังจากเกาหลีชื่อดังหลายวงถล่มยับ ว่าเธอนั้นเป็น พิธีกรแย่แห่งปี 2017 เพราะว่าเธอพูดจาไม่ให้เกียรติศิลปิน แซวแรงเกินไป รวมไปถึงคำพูดที่เหยียดแฟนคลับ หลังจากที่เธอเป็นพิธีกรในงานเปิดตัวศูนย์การค้า SHOW DC

    ทั้งนี้ หลังจากมีเหตุ โควิด-19 กำลังเริ่มแพร่ระบาดนั้น คำพูดของเธอก็กลายเป็นประเด็นดัง เมื่อเธอได้แชร์คลิปบางส่วน ที่เธอได้พูดถึงไวรัสว่า.."...ประเทศไทยนี่โคตรศักดิ์สิทธิ์ เรามีพระโพธิสัตว์อยู่กี่พระองค์ เรามีพระเจ้าอยู่หัว เรามีเทพยดา มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองเรา นึกถึงท่านไปเลย เวลาแมร์จนตรอกหรือคิดอะไรไม่ออกก็จะ (ยกมือไหว้) ช่วยลูกด้วย ดังนั้นจะเอาหรือไม่เอาอยู่ที่คุณเลย คิดข้ามช็อตเลย ฉันจะยืนเหนือ ยืนหนึ่ง เหนือโควิด ให้ได้"

    ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าอาชีพดารานั้นย่อมมีเงินและไม่ลำบากเท่าประชาชนทั่วไปอยู่แล้ว การจะให้หวังเพิ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพียงอย่างเดียว ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ และไม่ได้ช่วยให้ประชาชนอิ่มท้อง

    ทั้งนี้เธอเชื่อว่า ที่เธอประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพราะเธอได้ไปบนไอ้ไข่ไว้ โดยเธอได้งเดินทางไปแก้ที่วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช เธอได้อัดคลิปวีดิโอลงในอินสตาแกรมส่วนตัวพร้อมกับการจุดประทัดกว่า 13 ล้านนัด

     แม้ว่าจะมีชาวเน็ตหลายคนแห่อนุโมทนาบุญ และยินดีกับเธอ แต่ก็มีชาวเน็ตบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเธอนั้นสร้างมลพิษ PM 2.5 ก่อนที่เธอจะออกมาชี้แจงว่า การจุดประทัดนั้นเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำกัน เป็นประเพณี เป็นวัฒนธรรมที่เขาทำต่อกันมานาน และเพียงแป๊บเดียวควันก็หายแล้ว

    ก่อนมีดราม่าล่าสุด เธอได้โฆษณาสรรพคุณอาหารเสริมเกินจริงๆ ทั้งการดื่มแล้วจะมีตาสองชั้น กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายกกระชับ และจมูกเข้ารูปทั้งที่ ไม่เคยทำจมูกมาก่อน จึงกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่า อาหารเสริมมีสรรพคุณที่ทำได้ตามที่โฆษณาดังกล่าวหรือไม่ ก่อนที่เธอจะโดน ทาง อย.เอาผิดเกี่ยวกับการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาตและการโฆษณาเกินจริง พร้อมทั้งเธอยังมีข้อหาก่อนหน้านี้อีก 7 คดีอีกด้วย

.

.

.

.

.

ที่มา : kalamare