เปิดสถิติที่ "รุ่นพี่ 7 เซียน" สร้างไว้ในชิงแชมป์โลก ลูกยางไทยรุ่นใหม่มีสิทธิ์สร้างประวัติศาสตร์

LIEKR:

เปิดโอกาสลุ้นแชมป์ของ #วอลเลย์บอลหญิง ในศึกชิงแชม์โลก แข่งมาแล้ว 3 รุ่น ผลงานเป็นอย่างไรบ้างเรามาดูไปพร้อม ๆ กันค่ะ

        ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แล้วสำหรับศึกการแข่งขันวอลเลย์บอลที่แฟนวอลเลย์บอลต่างรอคอย สำหรับ ศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2022 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2565 - 15 ตุลาคม พ.ศ. 2565 ซึ่งขณะนี้ทัพนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยของเราก็เดินทางถึงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        และวันนี้เราจะพาทุกคนย้อนกลับไปชมผลงานของทัพลูกยางสาวไทยในศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 6 ครั้งล่าสุด ตั้งแต่ก่อนยุค 7 เซียน ปี 1998 มาจนถึงยุคปัจจุบันว่าทัพลูกยางสาวไทยมีโอกาสลุ้นแชมป์มากแค่ไหน

 

Sponsored Ad

 

        โดยปี 1998 ทัพลูกยางสาวไทย (ยุคก่อน 7 เซียน) ได้เข้าร่วมแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก เป็นครั้งแรก นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในเวทีนานาชาติของทัพลูกยางสาวไทยเลยก็ว่าได้ สำหรับทัพลูกยางสาวไทยได้เข้าร่วมแข่งขันรายการนี้จากโควต้าผู้ชนะการแข่งขัน A V C 1997 โดยปีนั้นทัพลูกยางสาวไทยมีอันดับโลกอยู่ที่อันดับที่ 22 โดยปีดังกล่าวทัพลูกยางสาวไทยอยู่สายร่วมกับอันดับ 3 ของโลกอย่าง จีน, อันดับ 4 ของโลกอย่าง เกาหลี และอันดับ 10 ของโลกอย่าง โครเอเชีย โดยปีนั้นทัพลูกยางสาวไทยไม่สามารถเอาชนะทีมใดได้เลย และจบอันดับที่อันดับที่ 13 ร่วมกับ เยอรมนี, เคนยา และสหรัฐอเมริกา 

 

Sponsored Ad

 


        ต่อมาที่ปี 2002 ทัพลูกยางสาวไทยได้โควต้าไปแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกอีกครั้ง หลังทำผลงานในศึกวอลเลย์บอล A V C ได้เป็นอย่างดี โดยในปีดังกล่าวได้ถือเป็นการก้าวหน้าอีกครั้งของทัพลูกยางสาวไทย ซึ่งปีนี้ทัพลูกยางสาวไทยของเราอยู่ร่วมสายกับ บราซิล, จีน, กรีซ, โปแลนด์ และออสเตรเลีย โดยในปีดังกล่าวทัพลูกยางสาวไทยจบอันดับด้วยอันดับที่ 17 ร่วมกับอาร์เจนตินา, แคนาดา, เช็ก โดยปีดังกล่าวทัพลูกยางสาวไทย สามารถคว้ามาได้ 2 เซต จาก ออสเตรเลีย และ จีน

 

Sponsored Ad

 

        ต่อมาเป็นช่วงเข้าสู่ยุครอยต่อระหว่างพี่ ๆ รุ่นแรกและ 7 เซียน โดยปีดังกล่าวทัพลูกยางสาวไทยไม่สามารถผ่านการคัดเลือกเข้าไปแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกได้

        โดยยุคทองของทัพลูกยางสาวไทยได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ 7 เซียนได้แชมป์เอเชียครั้งแรกในประวัติศาสตร์ในปี 2009 ส่งผลให้อันดับโลกของทัพลูกยางสาวไทยพุ่งขึ้นมาอยู่อันดับที่ 12 โดยปีดังกล่าวทัพลูกยางสาวไทยในชุด 7 เซียนก็ได้เข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกอีกครั้ง และอยู่ร่วมสายกับทีมอันดับที่ 2 ของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา, ทีมอันดับที่ 6 ของโลกอย่าง คิวบา, ทีมอันดับที่ 15 ของโลกอย่าง เยอรมนี, ทีมอันดับที่ 16 ของโลกอย่าง คาซัคสถาน และทีมอันดับที่ 45 ของโลกอย่าง โครเอเชีย โดยปีนี้ทัพลูกยางสาวไทยก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบที่ 2 ได้เป็นครั้งแรก หลังจากสามารถเอาชนะคาซัคสถานได้ 3-1 เซต และชนะโครเอเชียได้ 3-0 เซต โดยปีนี้ทัพลูกยางสาวไทยได้จบอันดับด้วยอันดับที่ 13 ร่วมกับเกาหลีใต้ เรียกได้ว่าเป็นการก้าวกระโดดอีกขั้นของทัพลูกยางสาวไทยเลยก็ว่าได้ เพราะสามารถทำอันดับได้สูงสุดตั้งแต่เข้าร่วมแข่งขันรายการดังกล่าว

 

Sponsored Ad

 

        ต่อมาปี 2014 ทัพลูกยางสาวไทยที่นำทัพโดย 7 เซียน ก็ถูกทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยส่งไปแข่งขันศึกเอเชี่ยนเกม และส่งนักกีฬารุ่นใหม่ โดยมี วรรณา บัวแก้ว เป็นคนนำทัพ และมีโค้ชอ๊อดเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปแข่งชิงแชมป์โลก ด้วยเหตุผลที่ว่าเวลาการแข่งขันชนกัน โดยปีนั้นสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยก็ถูกแฟน ๆ วอลเลย์บอลชาวไทยวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก

 

Sponsored Ad

 

        โดยปีนั้นทัพลูกยางสาวไทยที่นำทีมโดย วรรณา บัวแก้ว และนักกีฬาสายเลือดใหม่ที่ประกอบไปด้วย พรพรรณ เกิดปราชญน์, อัจฉราพร คงยศ, โสรยา พรหมหล้า, ชัชชุอร โมกศรี (ที่ขณะนั้นอายุเพียงแค่ 15 ปี) ก็ไม่สามารถเอาชนะทีมร่วมสายอย่าง ทีมอันดับ 2 ของโลกอย่าง สหรัฐอเมริกา, ทีมอันดับ 6 ของโลกอย่าง รัสเซีย, ทีมอันดับที่ 18 ของโลกอย่าง เนเธอร์แลนด์ และทีมอันดับที่ 23 ของโลกอย่าง คาซัคสถาน และทีมอันดับ 28 ของโลกอย่าง เม็กซิโก และจบด้วยอันดับที่ 17 ถึงแม้ปีนั้นทางสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยจะโดยตำหนิอย่างหนัก แต่ผลดีคือทัพลูกยางสาวไทยได้เห็นศักยภาพของเหล่านักกีฬาสายเลือดใหม่

 

Sponsored Ad

 

        ต่อมาในปี 2018 ต้องบอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่โหดมากสำหรับทัพลูกยางสาวไทย โดยปีนี้ทัพลูกยางสาวไทยทั้ง 14 คนเป็นส่วนผสมผสานที่ลงตัวระหว่างรุ่นพี่ระดับตำนานอย่าง 7 เซียน และทัพลูกยางสายเลือดใหม่ที่เคยถูกส่งไปสู้ศึกชิงแชมป์โลกมาแล้ว โดยปีดังกล่าวทั้ง เพียว อัจฉราพร และ บีม พิมพิชยา ต่างทำผลงานได้อย่างงดงามและเป็นส่วนช่วยให้ทัพลูกยางสาวไทยผ่านเข้าสู่รอบ 2 ได้อีกครั้ง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ทั้งคู่ค่อย ๆ ถยอยได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันในรอบที่ 2 ทำให้ทัพลูกยางสาวไทยจบการแข่งขันด้วยอันดับที่ 13 และถือว่าเป็นอันดับที่สูงที่สุดของทัพลูกยางสาวไทยเลยก็ว่าได้

        และเรามาลุ้นกันนะคะว่าศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงแชมป์โลก 2022 ทัพลูกยางสาวไทยชุดที่เป็นสายเลือดใหม่แบบฟูลทีมจะพากันไต่ไปถึงอันดับที่เท่าไหร่ เรามาช่วยกันส่งแรงเชียร์แรงใจให้กับทัพลูกยางสาวไทยของพวกเรากันค่ะ

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ