LIEKR:
เปิดประวัติ รัฐมนตรีหนุ่ม วัย 25 ปี สร้างประวัติศาสตร์อายุน้อยที่สุดในโลก
กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก สำหรับ "ไซเอ็ด ซาดิก ไซเอ็ด อับดุล ราห์มาน" หนุ่มวัย 25 ปี ที่ได้กลายมาเป็นนักการเมืองหนุ่มไฟแรงที่โลกกำลังให้ความสนใจ ด้วยความเก่ง สามารถพาตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นรัฐมนตรีว่ากระทรวงเยาวชนและกีฬา สร้างประวัติรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดของมาเลเซีย
"ไซเอ็ด ซาดิก อับดุล ราห์มาน" เกิดวันที่ 6 ธันวาคม 2535 ที่เมืองปูไล รัฐยะโฮร์บาห์รู เขาเกิดมาในครอบครัวที่เป็นชนชั้นกลาง เป็นลูกคนที่ 4 ของครอบครัว ได้เข้าศึกษาวิทยาลัยนายร้อยทหารบก และสำเร็จการศึกษา ป.ตรี ด้านกฎหมาย จาก International Islamic University Malaysia (IIUM)
Sponsored Ad
ชีวิตวัยเรียนของเขาค่อนข้างมีอนาคตที่ก้าวไกล สมัยเรียนเคยชนะ คว้ารางวัล Asia's Best Speaker Award ด้านโต้วาที และเมื่อไม่นานนี้เขาต้องยอมทิ้งทุนเรียนต่อ ป.โท ด้านนโยบายสาธารณะ (Public Policy) จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในประเทศอังกฤษ เพื่อที่จะมาสานต่อทางการเมืองอย่างเต็มตัว
Sponsored Ad
ด้านการเมือง "ไซเอ็ด" สังกัดพรรคเชื้อชาติชนพื้นเมืองมาเลเซียหรือพรรค Parti Pribumi Bersatu พรรคที่ก่อตั้งโดย นายมหาเธร์ โมฮามัด ซึ่งเขาได้เข้าสาบานตนรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและกีฬาของมาเลเซีย คนที่18 เมื่อต้นเดือน ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ "ไซเอ็ด ซาดิก" เป็นหัวหน้าปีกยุวชนพรรคสหประชาชนมาเลย์ (Parti Pribumi Bersatu Malaysia) หรือ PPBM โดยเริ่มต้นจากการเสนอตัวเข้าสมัครลงสนามเลือกตั้งเคียงข้าง มหาเธร์ โมฮัมหมัด ในการเลือกตั้งทั่วไป และเป็นฟันเฟืองคนสำคัญที่ช่วยทำให้ประสบความสำเร็จมาได้ในที่สุด
Sponsored Ad
ด้วยความเป็นที่คนรุ่นใหม่ที่เป็นกระบอกเสียงให้กับกลุ่มคนที่สนใจเรื่องการเมืองน้อยที่สุด ไม่แปลกใจที่นโยบายของเขาจะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการตั้งเป้าหมายและผลักดันให้มาเลเซียผงาดเป็นเสือเศรษฐกิจของเอเชียอีกครั้ง ทำให้คนทั้งประเทศมีความหวังครั้งใหม่
Sponsored Ad
ทั้งนี้ "ไซเอ็ด ซาดิก" ยังเป็นที่จับตามองสำหรับสื่อ เนื่องจากดูท่าทางจะมีอนาคตทางการเมืองค่อนข้างไกล โดยเฉพาะการเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่พบว่ากลายเป็นคลื่นสึนามิเงียบๆ ที่หนุนการเลือกตั้งทั่วไปครั้งล่าสุด ทำให้คว้าชัยชนะมาได้
ปัจจุบันเขาใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียสื่อสารกับผู้สนับสนุนเป็นอย่างดี และตอนนี้มีผู้ติดตามอินสตาแกรมของเขาพุ่งทะลุ 1 ล้านคนแล้ว ภายในเวลาอันรวดเร็ว
.
.
.
.
.
.
.
.
ข้อมูลและภาพจาก @syedsaddiq, bbc
