ครอบครัวนักอนุรักษ์สร้างบ้านกลางป่า"ไม่มีiPad มือถือ" ให้ลูกเล่น แต่พวกเธอกลับเล่นสิ่งนี้แทน

LIEKR:

สุดยอดแห่งชีวิตวัยด็กจริงๆ!!

หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเต็มได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    การศึกษาในวันนี้ที่จะนำเสนอนี้! ไม่มีไอแพด, ทีวีหรือโทรศัพท์มือถือ  แต่มีแมงป่อง, จระเข้และยีราฟรอบข้างโต๊ะขณะดื่มชา ... นี้บทเรียนในช่วงวัยเด็กของครอบครัวตระกูลนักอนุรักษ์ในป่าแอฟริกัน ที่กำลังจะสอนให้เราได้รับรู้และเข้าใจถึงชีวิตวัยเด็กในป่า

    สื่อต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อคืนลูกสาวคนโต Mayian และลูกสาวฝาแฝด Tali และ Luna ของพวกเขาท่าตื่นเต้นและรีบวิ่งออกมาบอกพวกเขาว่า “เห็นแมงป่อง” อยู่นอกห้องของพวกเธอ

 

Sponsored Ad

 

    การที่พบแมงป่องไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติอะไรมาก เมื่ออยู่แอฟริกัน สามีแฟรงค์และลูกสาวทั้งสามคนของเราคือ เซลคี อายุ 10 ขวบ มาเรียนและลูน่ามาอายุ 7 ขวบ กับการย้ายทั้งครอบครัวตั้งรกรากมาอยู่ในแอฟริกาในปี 2014

    ในพื้นที่ที่ไกลออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของ เกรตริฟต์แวลลีย์ (Great Rift Valley) ซึ่งเป็นหุบเขารอยเลื่อนขนาดใหญ่ ของเคนยาและ ในทิศทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาเคยยา (Mount Kenya ) และ เขตอนุรักษ์แห่งชาติแซมบูรู (Samburu) มีควายสปริงส์ และ เขตอนุรักษ์พันธุ์ธรรมชาติ ซาบา (Shaba National Reserve) เป็นเหมือนบ้านของพวกเขา และเป็นที่ตั้งของช้างกว่า 1,000 ตัว ซึ่งสภาพอากาศที่นี่ค่อนข้างแห้งแล้ง

 

Sponsored Ad

 

    ไกลออกไปจากชานเมืองที่เต็มไปด้วยก้อนอิฐและปูน ส่วนบ้านของเราเป็นค่ายเต๊นท์ในป่า และนอกเหนือจากช้างที่เราทำงานและแบ่งปันที่อยู่อาศัยแล้ว เพื่อนบ้านของเราคือ สิงโต ควาย ไฮยีน่าและลิงที่ท่องไปในถิ่นทุรกันดารและ คนเร่ร่อนของเผ่า Samburu, Somali, Turkana และ Borana

    ที่นี่ไม่มีโทรทัศน์และไม่มีไอแพด ไม่มีของเล่นพลาสติก แทนที่จะเป็นของเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ แต่ลูกสาวของพวกเขากลับเล่นคันธนูและลูกธนูแทน

 

Sponsored Ad

 

    สนามเด็กเล่นของพวกเขาคือหาดทรายริมฝั่งแม่น้ำระหว่างต้น Kigelia อันกว้างใหญ่สองต้น ซึ่งดูแล้วพวกเธอเหมือนลิงเลยนะ และในแม่น้ำ Ewaso Nyiro ซึ่งไหลไปทางด้านใต้ของค่ายของเราก็มีจระเข้ว่ายไปมามากมาย

    สำหรับโรงเรียน - เป็นกระท่อมชนบทที่ไม่มีกระจกหน้าต่าง มีเพียงแค่ลวดไก่เพื่อหยุดลิงที่ชอบกระโดดขึ้นไปบนหลังคาไม่ให้เข้าไปเท่านั้น

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับการเรียนการสอนที่บ้านของลูกๆ ได้รับการสอนโดยครูอาสาสมัครที่มีความกระตือรือร้นในการสอนลูกสาวมาก และพวกเธอได้รับการเรียนหลักสูตรชาติอังกฤษ และอื่นๆอีกมากมาย เมื่อโรงเรียน “ปกติทั่วไป” จะเลิกเรียนช่วง 16.00 น. พวกเด็กๆลงทะเบียนใน “โรงเรียนแซมบูรู” ซึ่งพวกเด็กๆเรียนรู้ที่จะมองโลกเหมือนนักรบชนเผ่า มีความภาคภูมิใจในการควงธนู ลูกธนู และมีดที่เราซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้ลูกสาววัย 6 และ 7 ขวบ

    ในขณะเดียวกัน Frank สามีและฉัน (saba douglas hamilton) ก็ภูมิใจในการสอนลูกๆให้ใส่ใจกับโลกธรรมชาติรอบตัวให้มากขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    ในทุกเช้า เมื่อเราตื่นขึ้นและโผล่ออกไปจากห้องนอน เราก็จะทำให้เป็นนิสัยในการพยายามอ่านร่องรอยและรอยเท้าจากสัตว์ในตอนกลางคืน บางครั้งมันเป็นเม่นเดินเล่นไปมารอบ ๆ และกองปีกของแมลงเต็มพื้น

    ฉันและ  Frank คิดว่าลูกๆของพวกเขามีชีวิตวัยเด็กที่ไม่ธรรมดาจริงๆ อยู่ห่างไกลจากข้อจำกัดของ Ofsted (Office for Standards in Education) ซึ่งเป็นสำนักงานมาตรฐานทางการศึกษาหรือ การประกันคุณภาพทางการศึกษา ที่นี่เป็นโรงเรียนที่เกินกว่าที่คุณจะสามารถจิตนาการได้ พวกเขาเชื่อว่าอันที่จริงเรานี้เป็นเหมือนของกำนัล กำไรและเป็นสิ่งที่ช่วยให้จินตนาการของลูกๆรุ่งเรืองขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    เธอเล่าให้ฟังว่า คุณพ่อ เอียนดักลาส - แฮมิลตัน (Iain Douglas-Hamilton) ได้ย้ายมาอยู่ในแอฟริกาในฐานะนักชาติพันธุ์วิทยารุ่นใหม่ที่เพิ่งออกจากอ๊อกฟอร์ดและเป็นคนแรกที่ศึกษาช้างในป่าโดยยึดตามวิทยานิพนธ์ของเขาจากการสังเกตของเขาว่าช้างเป็นระบบสังคมแบบผู้หญิงเป็นผู้นำครอบครัว

    หลังจากนั้นก็แต่งงานกับแม่ของเธอ โอเรีย (Oria) และตั้งรกรากที่นั่น ฉะนั้นบ้านในวัยเด็กของเธอกับน้องสาวก็จะอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Manyara ของแทนซาเนีย  ในวัยเด็กพวกเธอวิ่งเล่นริมฝั่งแม่น้ำ Ndala ซึ่งเป็นที่ที่พ่อของเธอได้สร้างงานวิจัยไว้ ความทรงจำที่เก่าแก่ที่สุดของเธอก็คือ ช้าง เช่นเดียวกับพ่อของเธอ

Sponsored Ad

    เมื่ออายุ 12 ปีเธอก็ถูกส่งไปโรงเรียนประจำในอังกฤษ เหมือนได้รับอิสรภาพเธอหลงรักอิสรภาพนี้มาก  แต่มันกลับทำให้เธอเริ่มเกลียดมัน เพราะเมื่อเธอย้ายเข้าไปในอักฤษ จากนั้นก็ไปอยู่กับญาติ ๆ ในสกอตแลนด์และย้ายไปโรงเรียนประจำที่มีกฎเกณฑ์และความเข้มงวดดูเหมือนชาวต่างชาติและไร้ความปราณี

หลังจากนั้น 3 ปี เธอก็เรียนจบและย้ายไปเรียนต่อมหาวิทยาลัย

    เธอกล่าวว่า “เคนยา” เป็นเหมือนบ้านของเธอมากกว่า และในที่สุดเธอก็โชคดีมากที่ได้พบ Frank  ผู้ชายที่ยอมมาอยู่อาศัยในแอฟริกา สุดท้ายทั้งสองก็ตกลงแต่งงานกันในปี 2006

    ทั้งคู่อาศัยอยู่ในกระท่อมแห่งหนึ่งที่ไนโรบี พวกเขาแบกกระเป๋าเดินทางไปทั่วโลกพร้อมกัน เพื่อถ่ายทำสารคดีเกี่ยวกับสัตว์ของบีบีซี(BCC)

    จนกระทั่งเมื่อปี 2011 เธอพบว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์ซึ่งก็เป็น “ฝาแฝด” ด้วย เธอและสามีจึงเริ่มคิดอย่างชัดเจนว่าเราต้องวางรากที่เหมาะสมอย่างถาวรสักที

    พวกเขาตกลงพักอาศัยอยู่ที่ค่ายช้างของแม่ในแซมบูรู ที่พักเชิงนิเวศที่ผู้คนสามารถมาดูช้างในที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติและเรียนรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ช้างได้

    ตอนนั้น Frank เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างช้างโดยเข้าร่วมงานการกุศล ที่มีชื่อว่า “Save The Elephants” เพราะมีการลักลอบล่างาช้างที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก

    แน่นอนเธอรู้ว่าตนเองและครอบครัวอาจจะต้องอยู่อาศัยในบ้านพุ่มไม้ เธอจึงเริ่มมีความกังวลอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการตั้งถิ่นฐานครอบครัวที่นั่น เพราะไม่มีโรงเรียนที่ดีสำหรับลูกๆของเธอ ฉะนั้นพวกเธอก็ต้องเลือกการศึกษาในบ้าน หรือ โฮมสคูล

    “พวกเขาจะไม่บรรลุมาตรฐานที่กำหนดไว้ เด็กต้องการความเจริญรุ่งเรือง” ครูคนหนึ่งบอกกับเธอ

    เธอพูดกับตัวเองเสมอว่า “ฉันทำสำเร็จ แม้ว่าในช่วงเริ่มการศึกษาจะสั่นคลอนนิดหน่อย”

    มันเป็นเรื่องที่วิเศษและน่ายินดีมาก เมื่อพวกเขาพบว่าลูกสาว ปรับตัวเร็วแค่ไหน

    ไม่นาเธอก็ต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่น่ากลัวของชีวิตอันใหม่ เพราะภายในสามสัปดาห์ที่ครอบครัวได้เรียนรู้ว่า “เสือดาว” ที่บ้าคลั่งกำลังอาละวาดผ่านหนึ่งในเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด

    ในขณะนั้นที่เธอกำลังประกาศรับสมัครครูประจำบ้านให้เด็กๆ เธอตระหนักว่าจำเป็นมากที่ต้องให้ความคุ้มครองแก่ลูกสาวของเธอมาก ดังนั้นฉันจึงจ้าง “พี่เลี้ยง นินจา”  นักรบหนุ่มจากเผ่า Samburu ท้องถิ่นเพื่อจับตาดูลูกๆให้พวกเธอให้พ้นจากอันตราย

    พี่เลี้ยงนินจาคนนี้มีความสามารถมากมาย ใช้หอก มีด และอื่นๆเก่งมาก สามารถป้องกันอันตรายรอบด้านให้ลูกๆของเธอได้ แน่นอนว่าเด็กๆก็ให้ความสำคัญแก่พี่เลี้ยงคนนี้มาก เพราะเขาได้สอนศิลปะการป้องกันตัวมากมายให้กับลูกสาว พี่เลี้ยงนินจา ทำให้เธอวางใจได้มาก

    และสิ่งที่ได้มากกว่านั้นคือลูกๆเรียนรู้ภาษาละตินคำว่า “แมงป่อง”  รวมถึงความสามารถในการจำแนกพวกมันด้วยสายตา แถมยังรู้วิธีเอาตัวรอดเมื่อโดนสัตว์เหล่านั้นทำร้ายอีกด้วย

    ในทำนองเดียวกันนั้น เด็ก ๆ ในเมืองจะได้รับการสอนที่ไม่ได้มองและเห็นของจริง

    ในโลกที่มีวัยเด็กมาพร้อมกับข้อจำกัด และแรงกดดันมากมายและมักจะถูกตัดให้สั้นเกินไป  แต่ชีวิตวัยเด็กของลูกสาวในป่าแห่งนี้ พวกเธอได้รับอนุญาตให้เป็นเด็กโดยปราศจากความอคติใดใด มีความอิสระอย่างน่าอัศจรรย์ และเติบโตมาพร้อมกับธรรมชาติซึ่งแม้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ และนี่จะเป็นชีวิตวัยเด็กที่มีค่ามากที่สุดสำหรับพวกเธอทั้งสามคน

    ชมคลิป 1

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

    

    ชมคลิป 2

    คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<


ที่มา :lookingforward

แปลและเรียบเรียงโดย Liek

บทความที่คุณอาจสนใจ