พ่อเฒ่าวัย 75 อยากไปอยู่ในเมือง ลูกๆ จึงตัดสินใจส่งตั๋วรถไฟมาให้ เมื่อพ่อได้รับก็ฉีกตั๋วเป็นชิ้นๆ

LIEKR:

อ่านแล้วน้ำตาซึมเลย...

        เว็บไซต์ต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของชาวเน็ตท่านหนึ่ง โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า "ลุงโจว" ปีนี้อายุ 75  อยากเข้าไปอยู่ในเมืองบ้าง ลูกสองคนในเมืองใหญ่จึงส่งตั๋วรถไฟมาให้แก พอคุณลุงเห็นตั๋วรถก็น้ำตาไหล ฉีกตั๋วเป็นชิ้นๆ ตัดสินใจไม่ไปไหนทั้งนั้น ปัญหาเกิดจากตั๋วสองใบนั้นเอง

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

        หลายปีมานี้ ชีวิตของลุงโจวไม่ง่ายเลย ตอนหนุ่มๆ เนื่องจากที่บ้านจน จึงไม่ค่อยมีผู้หญิงแล เพื่อจะไม่ต้องเป็นโสดไปชั่วชีวิต ลุงโจวจึงทำงานอย่างหนัก เคยลากเรือ เป็นช่างปูน แบกหิน ในที่สุดตอนอายุ 35 ปี แกก็ได้แต่งงานกับป้ามา

        หลังแต่งงานลุงโจวก็มีความสุขอยู่ช่วงระยะหนึ่ง ป้ามาเป็นคนขยันมาก จัดบ้านเป็นระเบียบอย่างดี และมอบลูกสาวลูกชายให้ลุงโจว ทำให้ลุงโจวดีใจมาก รู้สึกว่าชีวิตเต็มไปด้วยความหวัง ยิ่งต้องสู้ต่อไป

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

 

Sponsored Ad

 

        น่าเสียดายที่บางคนโชคชะตาต้องทนทุกข์ทรมาน ลุงโจวคิดว่าชีวิตตัวเองจะมีความสุขแล้ว แต่เรื่องกลับไม่เป็นอย่างนั้น ตอนที่ลูกอายุ 5 ขวบ ภัยพิบัติก็มาถึงครอบครัวนี้ ป้ามาขึ้นไปหาฟืนบนเขา ไม่ระวังพลัดตกเขาไป และเสียชีวิตก่อนที่จะถูกนำตัวส่งถึงโรงพยาบาล นับจากนั้นมา ภาระหน้าที่การดูแลลูกทั้งสองก็ตกเป็นของลุงโจวคนเดียว

        ลุงโจวรักลูกทั้งสองคนมาก กลัวว่าถ้าหาแม่เลี้ยงให้ลูกแล้วจะเข้ากับลูกไม่ได้ ก็เลยไม่หา แล้วทำตัวเป็นทั้งพ่อและแม่เลี้ยงดูลูกตามลำพัง แกผ่านความยากลำบากมาไม่น้อย แต่ลุงโจวก็ยังกระตือรือร้น ไม่เพียงเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่ ยังให้การศึกษาพวกเขาอย่างดี ความลำบากที่ลุงโจวต้องเจอยากจะพูดสาธยายออกมาได้หมด แต่มองจากมือที่หยาบกร้าน ผมขาวเต็มหัว และริ้วรอยก็จะรู้

 

Sponsored Ad

 

        ลูกสองคนก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สอบเข้ามหาวิทยาลัยชื่อดังได้ พอเรียนจบก็ทำงานต่อในเมืองใหญ่ ลูกชายอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ ลูกสาวอยู่ปักกิ่ง หลังทำงานหนักอยู่หลายปี ลูกๆ ก็สร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ทำให้ลุงโจวภาคภูมิใจมาก

        ในหมู่บ้านที่ลุงโจวอาศัยอยู่ มีคนเรียนจบมหาวิทยาลัยไม่กี่คน การที่สามารถออกจากหมู่บ้านไปตั้งตัวในเมืองใหญ่ได้เป็นสิ่งที่หายากมากๆ ส่วนลุงโจวก็อยู่ที่บ้านตามลำพัง เมื่อลูกๆ ที่เลี้ยงดูมาได้ดิบได้ดี ทำให้ใครๆ ก็อิจฉา และทำให้ลุงโจวยืดไปได้พักใหญ่ สำหรับลุงโจวแล้ว ความรู้สึกแบบนี้มีความสุขยิ่งกว่าตัวเองได้เป็นเจ้าคนนายคน หรือหาเงินได้ก้อนใหญ่เสียอีก

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        แต่หลายปีผ่านไป เรื่องราวกลับเปลี่ยน ลูกๆ ยุ่งกับการทำงาน ไม่ค่อยกลับมาเยี่ยมแก ลูกขอให้แกไปอยู่ด้วยหลายครั้ง แต่แกก็ไม่ชินกับการอยู่เมืองใหญ่ รู้สึกว่าบ้านนอกอากาศดี เพื่อนบ้านก็เข้ากันได้ มีเวลาก็สามารถไปนั่งจิบชาคุยกัน ไม่เหมือนในเมืองใหญ่ ต้องอยู่อย่างเหงาๆ ดังนั้นลุงโจวจึงปฏิเสธลูกไปหลายต่อหลายครั้ง

        แต่พอมองเห็นลูกหลานคนอื่น แม้ว่าจะไม่ได้ไปได้ดิบได้ดีในเมือง แต่ก็สามารถอยู่ข้างๆ พ่อแม่ได้ทุกวัน มีหลานๆ อยู่พร้อมหน้าอบอุ่นก็ทำให้ลุงโจวอิจฉา มีอยู่ครั้งนึงลุงหลี่ตบบ่าลุงโจวบอกว่า : อาโจว ลูกเองได้ดิบได้ดีไปแล้ว ก็ไม่ใช่คนของเองแล้ว ไม่เหมือนลูกบ้านข้า 3 คน แม้ว่าจะไม่ได้ดิบได้ดีเท่าลูกเอง แต่ก็อยู่ข้างๆ ข้า ยังเป็นลูกชายข้า

 

Sponsored Ad

 

        ได้ยินลุงหลี่พูดแบบนั้น ลุงโจวก็รู้สึกแย่ ก็เลยตัดสินใจ จะย้ายไปอยู่ในเมืองกับลูก ลุงโจวบอกลูกสาวกับลูกชาย ทั้งสองดีใจมาก ยินดีที่ลุงโจวจะมาอยู่ด้วย เห็นลูกๆ กระตือรือร้นต้อนรับลุงโจวก็ดีใจ แต่ก็มีอีกเรื่องที่กังวล กลัวว่าไปอยู่กับลูกสาวแล้วลูกชายจะไม่พอใจ หรือไปอยู่กับลูกชายแล้วลูกสาวจะไม่พอใจ

        คิดดูแล้ว ลุงโจวก็ตัดสินใจได้ แกบอกกับลูกทั้งสองว่า แกอยากนั่งรถไฟไป ในใจแกคิดเอาไว้แล้วว่า ตั๋วของใครมาถึงก่อน ก็จะนั่งรถไปหาคนนั้น ถ้าอีกคนไม่พอใจ แกก็จะมีข้ออ้างได้ สองสามวันหลังจากนั้น ลุงโจวมีความสุขมาก พอเก็บของเสร็จ ก็เชิญคนเก่าแก่ในหมู่บ้านมาดื่มกินกัน ไปเล่นไพ่ร้านประจำ แถมยังซื้อชุดใหม่ให้ตัวเองอีกสองชุด

 

Sponsored Ad

 

(เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น)

        ตั๋วของลูกชายและลูกสาวมาถึงในวันเดียวกัน พอแกเปิดซองเห็นตั๋วรถไฟที่ลูกชายส่งมาให้ ก็รู้สึกชาวาบไปทั้งหัวใจ เปิดซองของลูกสาวด้วยความหวัง พอเห็นตั๋วรถไฟที่ลูกสาวส่งมา ลุงโจวก็โกรธมาก ฉีกตั๋วทั้งสองเป็นชิ้นๆ

        ลุงโจวทำเหมือนที่เคย หยิบรูปภรรยาออกมาคุยด้วย “มา ชาตินี้มีแต่เองที่ดีกับข่า แต่น่าเสียดาย เองจากไปเร็วเหลือเกิน ตอนนี้ลูกๆ โตแล้ว มีความคิดเป็นของตัวเอง และอยู่ไกลมาก ควบคุมพวกเขาไม่ได้แล้ว และหวังอะไรก็ไม่ได้ ตอนนี้ข้าไม่ไปไหนแล้ว จะรอเองอยู่ที่นี่ กลัวว่าถ้าข้าไปแล้ว วันนึงเองมาหา จะไม่เจอกัน ข้าจะรอที่บ้าน รอเองกลับมา พวกเราจะได้เจอกันอีก” ลุงโจวอาจจะไม่ได้สังเกตว่าระหว่างที่แกพูดน้ำตาก็ไหลอาบลงมาที่สองแก้ม

        ลุงโจวไม่ได้บอกใครว่า วันนั้นลูกชายส่งตั๋วไปปักกิ่งมา ส่วนลูกสาวก็ส่งตั๋วไปเซี่ยงไฮ้มาให้แก

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ