แม่ลูก 6 ร้อง รพ. ตรวจผิดบอกติดเชื้อ ร้องขอความเป็นธรรม ทำชีวิตพังมา 5 ปี

LIEKR:

แม่ลูก 6 ร้อง รพ. ตรวจผิดบอกติดเชื้อ ร้องขอความเป็นธรรม ทำชีวิตพังมา 5 ปี

    สาววัย 31 ปี คุณแม่ลูก 6 ร้องหลังโรงพยาบาลดังตรวจเลือดผิดระบุตัวเองกับลูก 2 คนติดเอชไอวี ลูกถูกเพื่อน ล้ อ แม่เป็น เ อ ด ส์ สังคม รั ง เ กี ย จ ต้องหนีไปอยู่ที่อื่นกว่า 5 ปี จนมารู้ภายหลังไม่ได้ติดเชื้อ

    สื่อรายงานว่า นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมด้วย นางมณีรัตน์ คงหอม อายุ 31 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหายกรณีโรงพยาบาลทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ตรวจผิดระบุว่าติดเชื้อ เ อ ช ไ อ วี ( H I V ) จนต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบากนานกว่า 5 ปี  เดินทางเข้าร้องขอความเป็นธรรม เพื่อให้ตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น และเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยมี นพ.พิทักษ์พล บุญยมาลิก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เขต 11 เป็นตัวแทนปลัด สธ. รับมอบหนังสือ

 

Sponsored Ad

 

    โดยนางนางมณีรัตน์ กล่าวว่า ตนมาขอความเป็นธรรม เนื่องจากโรงพยาบาลทุ่งสง ตรวจผลผิดพลาดระบุว่าตนติดเชื้อ เ อ ช ไ อ วี  ซึ่งตนมีลูกกับสามีคนแรก 5 คน โดยไปคลอดลูกคนที่ 4 และ 5 ที่ รพ.ทุ่งส่ง เมื่อปี 2557 และ 2558 ซึ่งแพทย์ระบุว่าตรวจพบเชื้อ เ อ ช ไ อ วี ในเลือด ตนและลูกจึงต้องรับยาต้านไวรัส แต่ตนไม่ได้กิน เนื่องจากท้อแท้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ ให้แค่ลูกคนที่ 4 และ 5 กินยาอย่างต่อเนื่องมา 5 ปี ซึ่งลูกก็แข็งแรงดี

 

Sponsored Ad

 

    อย่างไรก็ตาม เหตุที่เกิดขึ้นทำให้ได้รับความทุกข์ทรมาน จากการถูกสังคม ตี ต ร า ลูกถูกเพื่อน ล้ อ ว่าแม่เป็น เ อ ด ส์ มารับ ทำให้ไม่กล้าไปรับลูกที่โรงเรียน พี่เลี้ยงเด็กที่จ้างมาก็ รั ง เ กี ย จ ลูกทั้ง 2 คน ข้างบ้านไม่มีเด็กเล่นด้วย จนต้องย้ายครอบครัวไปพิษณุโลก จึงพบสามีคนที่ 2 และมีลูกคนที่ 6

    แต่เมื่อไปคลอดที่รพ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก โดยไม่ได้ฝากครรภ์ จึงรู้ว่าลูกไม่ติดเชื้อ เ อ ช ไ อ วี ตนก็ไม่พบเชื้อ โดยรพ.ตรวจยืนยันอีก 3 ครั้งก็ไม่พบเชื้อ จึงนำลูกคนที่ 4 และ 5 ไปตรวจ ก็ไม่พบเชื้อเอชไอวี

 

Sponsored Ad

 

    นางมณีรัตน์ กล่าวว่า ตนต้องการมาขอความเป็นธรรม อยากให้คนรอบข้างรู้ว่า ตนและครอบครัวไม่มีใครป่วยหรือติดเชื้อ เ อ ช ไ อ วี และอยากให้สธ.ถอดชื่อตนและลูกออกจากบัญชีผู้ติดเชื้อ ให้รพ.แสดงความรับผิดชอบ เพราะรพ.ระบุว่า จะจ่ายเงินเยียวยา 50,000 บาท ก็ยังไม่ดำเนินการ กระทั่งมาร้องศูนย์ดำรงธรรมก็ยังเงียบ จึงมาร้องต่อสภาทนายความ ขณะที่คำชี้แจงของรพ.ระบุแค่ว่า เป็นความผิดพลาดของเครื่องมือในการตรวจ ไม่ใช่แพทย์ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็คิดว่าน่าจะมีคนที่เป็นลักษณะคล้ายตนอีกในพื้นที่

 

Sponsored Ad

 

    ด้าน นพ.พิทักษ์พล กล่าวว่า เรื่องการตรวจสอบสธ.จะดำเนินการตามระบวนการ โดยจะประสานให้รพ.ดังกล่าว ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มายัง สธ. คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์ ส่วนการเยียวยาผู้เสียหายจะรับผิดชอบชดเชยโดยไม่ดูว่าใครถูกหรือผิด โดยใช้การเยียวยาตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 ซึ่งจะมีคณะกรรมการพิจารณา

ต่อมาเก

    ล่าสุดรายการโหนกระแสวันที่ 3 ก.ค. โดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ในฐานะผู้ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัดออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.45 – 14.25 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์ “คุณมณีรัตน์ คงหอม” หรือ “สาว” ผู้เสียหาย และ “ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร” ถึงประเด็นที่เกิดขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    รณณรงค์ : “ที่วันนี้ให้เปิดหน้า เพราะจะได้ให้สังคมรู้ว่าเธอไม่ได้ป่วย ไม่ต้องรังเกียจเธอและลูกๆ เธอ เธอทรมานมาหลายปี เพื่อนๆ ของลูกๆ เธอด้วย”

เรื่องทั้งหมดเกิดอะไรขึ้น?

    สาว : “เมื่อตอน 5 ปีที่แล้ว หนูไปเฝ้าลูกคนโตที่ รพ.ทุ่งสง แล้วมีอาการปวดท้อง หนูก็ไปคลอดที่ รพ.ทุ่งสง ตอนนั้นท้องที่ 4 ค่ะ หนูคลอดฉุกเฉิน หมอบอกว่าหนูติดเชื้อเอชไอวี ตอนนั้นหนูไม่ได้ฝากครรถ์ หนูมีปัญหาชีวิต แฟนติดคุก ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่เขาตรวจเชื้อ ไปอยู่ห้องพักฟื้น วันนึง หมอบอกว่าหนูติดเชื้อเอชไอวี หนูก็สับสนปัญหาชีวิตหนูก็มี หนูเลี้ยงลูกคนเดียว พอหมอบอกแบบนั้น หนูสติแตกเลย เก็บไว้คนเดียวตลอด ไม่บอกใครทั้งสิ้น พ่อแม่ลูกญาติพี่น้อง ไม่เคยพูดกับใครเลย”

 

Sponsored Ad

 

ตอนคุณไปตรวจเอสไอวี สามีติดคุกได้นานหรือยัง?
    สาว: “ติดคุกก่อนหนูรู้ว่าท้องได้สองเดือน สามีติดคุก”

ตอนนั้นตกใจมั้ย?
    สาว : “หนูก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน เพราะหนูก็ไม่ได้สำส่อน ก่อนสามีติดคุก เขาก็ดูแลลูกหนู ไปขายของตามตลาดนัดปกติ หนูก็ไม่ได้สำส่อน ไม่รู้มาจากไหน”

หมอบอกว่ามีเชื้อเอชไอวี หมอให้ทำยังไง?
    สาว : “หมอให้ยาต้านหนูกับลูกมา เด็กกินตั้งแต่แรกเกิดเลย หนูก็ไม่ได้กิน หนูไม่เคยกินยาต้าน แต่เด็กกินตลอด หลังจากนั้น 5-6 เดือน แฟนก็ออกมาจากคุก แฟนเขาบอกว่าในคุกก็ตรวจ”

Sponsored Ad

เล่าแฟนมั้ย?
    สาว : “แฟนก็รู้มาบ้าง แต่ญาติเขารู้ เขาก็ให้ตรวจ”

คุณไปปรึกษาทางบ้านเขาเหรอ?
    สาว : “ทางบ้านเขารู้จากสังคมภายนอก หนูไม่ทราบว่าเขารู้ได้ไง เหมือนญาติแฟนเขาได้ยินข่าวมาว่าเรามีเชื้อเอชไอวี”

สามีออกมาหลังจากนั้น 6 เดือนมีการพูดคุยกัน?
    สาว : “ทางญาติเขาก็ระแวงว่าหนูเป็นจริงไม่จริง เขาก็ให้แฟนหนูไปตรวจ แต่ตอนอยู่ในเรือนจำ เขาตรวจก็ไม่เจอ”

หลังจากนั้นเป็นไงต่อ?
    สาว : “พอแฟนออกมา อยู่ๆ ก็ท้องขึ้นมาอีก พอคลอดลูกก็ไม่กล้าไปฝากครรภ์เหมือนเดิม ก็ไปคลอดลูกคนที่ 5 เขาก็ให้กินยาต้านเหมือนเดิม คลอดที่รพ.เดิม หนูไม่ทราบว่าเขาเช็กมั้ย แต่เขาให้ยาต้านเด็กเลย”

    รณณรงค์ : “คงเป็นมาตรฐานในการตรวจ คงเจอ 2 รอบ”

ตัวคุณไม่ทานยาต้าน แต่ลูกสองคนทานทั้งคู่?
    สาว : “ยาต้านต้องกินให้ตรงเวลา ห้ามคาบเส้นที่เขากำหนด”

หลังจากนั้นคุณทนความกดดันไม่ได้?
    สาว : “กับแฟนคนนี้ก็เลิกกันไป ลูกก็ไปอยู่กับย่าเขา ย่าเขาให้กินยาตลอด หนูก็อยู่กับแฟนใหม่ เราพากันไปอยู่พิษณุโลก”    

สังคมกดดันชีวิตมาก ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ก็ย้ายเลย?
    สาว : “ตอนท้อง เราก็ทะเลาะกันจะเอาออก เพราะหนูมีเชื้อนี้อยู่ ตามที่หมอบอก พยายามหลีกเลี่ยงแฟนตลอด เพื่อหนีมาทำแท้ง แต่ไม่มีโอกาส เขาสกัดกั้นตลอดไม่ให้หนูมา”

หลังจากนั้นยังไง?
    สาว : “หลังจากนั้นหนูคลอดลูก หมอก็ได้ตรวจเลือดหนู เพราะหนูเป็นคนไข้ที่เป็นโรคเอดส์ มันขึ้นอยู่ในระบบ หมอก็ซักประวัติอย่างละเอียด และบอกว่าหนูไม่มีเชื้อเอสไอวี แต่หนูไม่มั่นใจ เขาเจาะเลือดหนูไปตรวจละเอียดหลายครั้งแล้วก็บอกว่าให้ไปเจาะใหม่ที่ รพ. แต่หนูไม่ไป

    หมอก็เลยมาเจาะเลือดถึงบ้าน อีก 15 วัน ก็ตามมาบอกผลเลือดหนู บอกว่าให้หนูไปฟังผลเลือด มันเป็นผลดี แต่หนูไม่กล้าไป เขาก็มาสองสามครั้งจนหนูไป”

ผลตรวจอยู่ในมือผม เป็นเนกาทีฟ หมายเหตุ เคสขอยืนยันเป็นกรณีพิเศษว่าเขาไม่ได้เป็น?
    รณณงค์ : “ใช่”

ตกนรกทั้งเป็นมากี่ปี?
    สาว : “5 ปี”

หลังลูกกินยาไป มีผลข้างเคียงมั้ย?
    สาว : “ลูกก็ปกติดี”

หลังคุณรู้ไม่มีเชื้อเอชไอวี คุณทำยังไง?
    สาว : “หนูก็กลับมาที่นครศรีธรรมราช ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรมแต่ก็เงียบ หนูก็ไปโพสต์ในอินเตอร์เน็ต มีคนให้คำแนะนำว่าให้ลองคุยทนาย หนูก็เลยติดต่อทนายรณณรงค์”

ตอนดูเคสนี้ตอนแรกเป็นยังไง?
    รณณรงค์ : “ตอนแรกไม่เชื่อ คิดวาเขากลั่นแกล้งใส่ร้ายรพ. หรือเปล่า ก็บอกแอดมินให้ตรวจให้ละเอียดอย่ามั่วนะเพราะตอนเขามา เขามีแค่ผลเลือดรพ.พิษณุโลกอย่างดียวว่าไม่ได้ป่วย แต่ไม่มีหลักฐานจากรพ. จ. นครศรีธรรมราชว่าเขาป่วย ไม่มีมาให้ ก็ไปหาที่รพ. แต่เขาไม่ให้ ซึ่งเดือดมาก ไปตามรพ. ไม่ให้ พอสุดท้ายเริ่มเป็นข่าว ให้เวชระเบียนมา แต่ไม่ให้ผลเลือดมา ไม่ได้ผลแล็ปมาเลย สุดท้ายรพ.ตัดสินใจจ่าย 5 หมื่น”

เขาบอกว่าเป็นค่าอะไร?
    รณณรงค์ : “ช่วยเหลือเบื้องต้น แต่ยังไมได้ไปเอานะ ตกนรกมา 5 ปี มันไม่ใช่”

หลังจากนั้นยังไงต่อ?
    รณณรงค์ : “พอเราประมวลผล ก็ตัดสินใจเอาเอกสาร เวชระเบียนตัวคุณสาว ก่อนหน้าที่เราให้เครือข่ายลงไปขอเอง ไม่ได้ จนต้องไปขอให้และได้มา ซึ่งได้มาไม่ครบ มีการยืนยันว่าไม่ได้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี แต่นั่นหลังจากที่เครือข่ายเรารับเรื่องมา เราบอกให้คุณสาวไปตรวจที่รพ.นี้อีกรอบ เขาไม่บอกว่าเจอไม่เจอ เขาส่งผลไปตรวจให้อีกรพ. ถึงกล้าสรุปว่าไม่เจอ ตรวจที่รพ.ตัวเองก่อนแต่ไม่แจ้งตอนนั้น สุดท้ายก็บอกว่าไม่เจอ”

คุณได้เห็นเอกสารตัวนั้นมั้ย?
    รณณรงค์ : “ต่อให้เห็นก็ดูไม่เป็นอยู่ดี เพราะเป็นเอกสารทางการแพทย์ แต่ที่เขาพยายามอธิบายคือขอโทษด้วย เครื่องที่ใช้ตรวจมันผิดพลาด แต่หมอไม่ได้วินิจฉัยผิดพลาด หมอวินิจฉัยตามเครื่อง นี่คือคำอธิบายที่เราได้รับ”

เด็กกินมา 5 ปี ไม่รู้ผลข้างเคียงเป็นยังไง?
    รณณรงค์ : “ใช่ครับ ตอนแรกเราคิดว่าคุณสาวกินยาต้านเอสไอวี จนเอชไอวีมันลดลงไปหรือเปล่า แต่คุณสาวบอกว่าไม่เคยกินเลย ฉะนั้นทฤษฎีกินแล้วหายเอง ใช้กับเคสนี้ไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้ป่วยตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว”

ชีวิตความเป็นอยู่ ในวันที่คุณคิดว่าเป็นเอชไอวี เป็นยังไง?
    สาว : “ตกนรกทั้งเป็นเลย หนูเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจคนเดียว แต่ในสังคมไม่รู้มาจากไหน ข่าวลือหนูเป็นเอดส์เยอะมาก หนูเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก ชีวิตก็ไม่สมบูรณ์ มีปัญหาชีวิตครอบครัวอยู่แล้ว หนูคิดฆ่าตัวตายหลายครั้งมาก”

ลูกล่ะ?
    สาว : “ลูกคนโตอายุ 12 ปีแล้ว ก็โดนเพื่อนล้อ แม่มึงเป็นเอดส์ วันนั้นหนูไปส่งลูกที่โรงเรียน มีเด็กรุ่นเดียวกันเดินผ่านแล้วบอกว่าอีเอดส์มาส่งๆ ตั้งแต่นั้นลูกบอกว่าแม่ไม่ต้องมาส่งที่โรงเรียนแล้ว”

ทำให้ชีวิตครอบครัวพังทลาย แค่ผลวินิจฉัยผิดพลาด มีเหตุการณ์อื่นอีกมั้ย ที่บีบคั้นเหมือนตกนรกทั้งเป็น ?
    สาว : “พ่อหนูโทรมาบอกให้กลับบ้าน หนูหนีจากบ้านเกิดไปเลย หนูหนีจากโลกปัจจุบัน ก็หลอกลวงตัวเองอยู่ที่อื่น ถ้าอยู่ที่บ้านหนูจะได้ยินคนว่าตลอด หนูก็หนีไปอยู่ที่อื่น (ร้องไห้) พ่อแม่ก็เป็นห่วงหนู เขาบอกว่าถ้าคิดว่าพ่อแม่ยังอยู่ ก็ให้กลับบ้านมาหาพ่อแม่ แต่หนูหนีไปจากโลกความเป็นจริงเลย หนูรับไม่ได้”

    รณณรงค์ : “ไปซื้อข้าวซื้อของในหมู่บ้าน คนก็ไม่ให้ซื้อเลย ซื้อข้าวยังไม่ให้กินในร้านเลย”

วันนี้ไปร้องมา ธงในใจในฐานะดูแลเรื่องนี้ เรื่องการเยียวยา คิดว่าน่าจะอยู่ตรงไหน?
    รณณรงค์ : “มันมีวงเงินที่ทางกระทรวงฯ สามารถจ่ายได้คือเคสละ 4 แสนบาท เราก็ขอไปทั้งหมด 1.2 ล้าน สามคน ตัวแม่ตัวลูกสองคน เป็น 1.2 ล้าน เราก็หวังว่ากระทรวงจะเมตตา”

ทำไมขอน้อยจัง เทียบกับความทรมาน 5 ปี?
    รณณรงค์ : “เป็นการขอเบื้องต้น เยียวยาเบื้องต้นได้เท่านี้ หลังจากนั้นจะใช้สิทธิ์เรียกค่าเสียหายเพิ่มเติมทางกฎหมายยังไง เดี๋ยวว่ากันอีกที”

เพื่อนๆ ของลูกยังไงบ้าง?
    สาว : “ตอนนี้เริ่มเข้าใจกันบ้างแล้ว แต่ก่อนเขาเหมือนเด็กมีปมด้อย ครอบครัวก็มีปัญหา มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้เขาไม่พูดเลย เขากดดันตัวเอง”

เรื่องรพ.จะทำยังไงต่อ?
    รณณรงค์ : “ต้องรอผลที่กระทรวงสาธารณสุข ตั้งกรรมการสอบสวนว่าเกิดขึ้นจากอะไร ผมไม่ได้ขอแค่เงินเยียวยานะ แต่ผมขอให้ตรวจย้อนหลังทั้งหมด ซึ่งในพื้นที่นั้นมันตรวจกับเครื่องนี้หมดเลย ประวัติการตรวจที่ใช้เครื่องตัวนี้มา มีใครอีกมั้ยที่จะหลุดแบบคุณสาวอีก มีใครมั้ยรู้ตัวเองว่าจริงๆ อาจไม่ได้ป่วยก็ได้”

ถ้าสุ่มแล้วคนอื่นปกติ เป็นคนเดยวก็ไม่ได้เกี่ยวกับเครื่อง?
    รณณรงค์ : “ก็จะเป็นเรื่องอื่นแล้ว ผิดพลาดทางบุคลากรหรือเปล่า แต่อันนี้ก็ผิดพลาดเยอะไปนะ ตรวจสองครั้ง คลอดสองคน ตรวจเจอเนี่ย รพ.พิษณุโลก เขาตรวจครั้งแรกก็ไม่เจอ แต่ที่นี่ตรวจเจอในครั้งแรกทั้งสองรอบ”

ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าเครื่องนั้นตรวจเจอ?
    รณณรงค์ : “มีครับ อยู่ที่รพ.นั่นหละ ก็ให้กระทรวงฯ เอามาที่กรุงเทพฯ ว่าผลเป็นยังไงแน่ ต้องมีการแก้ไขครับ ต้องบอกว่าเรื่องนี้ยอมไม่ได้อย่างหนึ่ง ลูกได้รับยาไปเรื่อยๆ ลูกก็มีชื่อเข้าไปอยู่ในบัญชี มีความเสี่ยงกลุ่มรับยาต้านไปด้วย เวลาไปไหนชื่อจะขึ้นหมดเลย ปัจจุบันก็ไม่ได้เอาชื่อเขาออก โชคดีที่แม่เขาตรวจแล้วว่าไม่เป็นแน่ๆ”

โล่งใจมั้ย?
    สาว : “โล่งใจมาก ก่อนหน้านั้น ชาวบ้านว่าหนูเพี้ยน ไปก็อปใบรับรองแพทย์มาจากอินเตอร์เน็ต”

    รณณรงค์ : “ผมมองว่านี่คือความผิดพลาด ความประมาทเลินเล่อจากอะไรก็ตามแต่ ทางครอบครัวและคุณสาวมีสิทธิ์เรียกร้องความเสียหายจากรพ. ทางร่างกาย จิตใจที่เกิดจากการใช้บริการ รวมถึงลูกที่ต้องรับยาทั้งที่ไม่ได้ป่วย ต้องบอกว่าทางรพ.พิษณุโลกเขาก็ตรวจมาตรฐานเดียวกัน ทำไมตรวจจนมั่นใจว่าเขาไม่ได้มีเชื้อ ก่อนหน้ามาตรงนี้เขาไปร้องเรียนสื่อมาทุกที่ แต่ไม่มีใครนำเสนอข่าวให้”

อยากบอกอะไร?
    สาว : “หนูอยากบอกว่าอยากให้รพ.ตรวจให้รอบคอบมากกว่านี้ ชีวิตคนเราไม่ใช่เรื่องสนุก ประชาชนหวังพึ่งรพ. ในยามเจ็บป่วย แล้วก็อยากฝากประชาชน คนที่เป็นโรคนี้ไม่ใช่คนน่ารังเกียจ เขาเป็นก็ร้ายแรงมากพออยู่แล้ว อย่าไปซ้ำเติม ดูถูกเหยียดหยามเขาเลย”

ชมคลิป

ข้อมูลและภาพจาก khaosod, รายการโหนกระแส 

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ