ประเทศไทย นับว่าเป็นอีกหนึ่งเมืองปลายทางยอดฮิตที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวติดอันดับต้นๆ ของโลก สาเหตุหลักมาจากค่าครองชีพไม่สูงมากนัก ธรรมชาติสวยงาม อาหารอร่อย และที่สำคัญคือคนไทยเป็นมิตรยิ้มทักทายได้ตลอดเวลา

        นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว ชาวต่างชาติส่วนใหญ่หากแต่งงานกับหญิงไทยก็มักจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทย เช่นเดียวกับ “เทรเวอร์ วินชิพ” อายุ 71 ปี อดีตข้าราชการเกษียณอายุ จากประเทศอังกฤษ บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาลงหลักปักฐานกับ “วรรณภา วินชิพ” อายุ 40 ปี ภรรยาชาวไทยที่ จ.ยโสธร ถามว่าคนต่างชาติเมื่อมาอยู่เมืองไทยเขาทำมาหากินอะไร...คำตอบคือส่วนใหญ่จะรับสอนภาษาตามสถาบันต่างๆ

        ครูฝรั่งบางคนมีเงินเป็นกอบเป็นกำกับหน้าที่ครูสอนภาษา แต่สำหรับ “เทรเวอร์” เขาไม่ต้องการเงินหรือค่าตอบแทนอะไรทั้งนั้น...เขาขอทำหน้าที่ครูสอนภาษาฟรีๆ ให้กับโรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากร (ตั้งตรงจิตร 15 ) จ.ยโสธร นอกจากนี้ 1 ปีที่ผ่านมา “เทรเวอร์” ยังทำหน้าที่จิตอาสายืนโบกรถอำนวยความสะดวก นำนักเรียนข้ามถนนทุกเช้า-เย็น จนกลายเป็นภาพชินตาของชาวยโสธร

        “เทรเวอร์” บอกว่า ตัวเองมีความสุขมากที่ได้มาอาศัยอยู่ในประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.ยโสธร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา เพื่อนบ้าน-เพื่อนที่โรงเรียนใจดีมาก เป็นมิตร คอยแนะนำช่วยเหลือ อาหารอีสานก็อร่อยโดยเฉพาะส้มตำ-ไก่ย่าง อบอุ่นดีใจมาก ส่วนเรื่องการมาสอนฟรี และเรื่องเป็นจราจรยืนอำนวยความสะดวกหน้าโรงเรียนเนื่องจากอยากทำความดีถวายให้กับ “ร.9” พ่อของคนไทยทั้งประเทศ การได้เข้ามาอาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินไทย การกระทำอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม และต่อคนไทยคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะเป็นการตอบแทนแผ่นดินที่ให้เราได้อาศัยอยู่ด้วย

        “ผมดีใจมากที่มีโอกาสได้พบ-พูดคุยกับนายนิกร สุกใส ผวจ.ยโสธร ท่านให้เกียรติพูดภาษาอีสานอย่างเป็นกันเอง ผู้ว่าฯ ชื่นชมในความเสียสละของผม ท่านยังบอกด้วยว่าหายากมาก หากมีอะไรจะให้ช่วยเหลือให้แจ้งผ่านโรงเรียนมาได้เลย พร้อมยินดีช่วยเหลือเต็มที่ นี่คือน้ำใจของคนไทยถือเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติก็ว่าได้”

        “ประสงค์ สิทธิยา” รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาล 1 สุขวิทยากร(ตั้งตรงจิตร 15 ) รักษาการผู้อำนวยการฯ บอกว่า โรงเรียนมีนักเรียนประมาณ 1,200 คน สอนชั้นอนุบาล-มัธยมศึกษาตอนปลาย เมื่อปี 55 เทรเวอร์เข้ามาติดต่อกับนายดุสิต กุบแก้ว ผู้อำนวยการฯขณะนั้น ขออาสาสอนภาษาอังกฤษให้กับนักเรียนโดยไม่เรียกค่าตอบแทนแต่อย่างใด โรงเรียนรับข้อเสนอ และขอตรวจสอบเอกสาร ก่อนจะสัมภาษณ์จนทราบว่านายเทรเวอร์ เป็นอดีตข้าราชการ ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี เมื่อเกษียณอายุจึงพาภรรยาคนไทย และบุตรสาว 1 คนมาซื้อที่ดินสร้างบ้านพัก ในเขตเทศบาลเมืองยโสธร เมื่อได้ข้อมูลจนครบโรงเรียนก็อนุญาตให้สอนในฐานะวิทยากร สอนรายชั่วโมง โดยเจ้าตัวปั่นจักรยานมาสอน ระยะทางไปกลับ 2 กม.

        รักษาการ ผอ.บอกต่อว่า “หลังจากสอนไปพักใหญ่ ปรากฏว่านักเรียนมีผลการเรียนภาษาอังกฤษ ในระดับดีมาก เขามีวิธีการสอนที่สนุก นักเรียนชื่นชอบ มีอุปกรณ์การสอบที่แปลก เรียกความสนใจจากเด็กได้ดี นอกจากนี้เขายังสนใจประเพณีวัฒนธรรมไทยเข้าวัดทำบุญพร้อมนักเรียน ที่น่าชมเชยอีกอย่างคือทุกเช้า-เย็นจะมายืนให้ความช่วยเหลือนักเรียนเวลาข้ามถนน กลายเป็นจราจรอาสาอีกตำแหน่ง โดยโรงเรียนส่งไปอบรมกับทางจราจร สภ.เมืองยโสธร ที่ผ่านมาโรงเรียนตอบแทนค่าเดินทาง และค่าอาหารกลางวันจำนวนเล็กน้อยให้เท่านั้น พร้อมให้ลูกสาวนายเทรเวอร์อายุ 5 ขวบมาเรียนชั้นอนุบาล ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่สอน ด้วยความที่มีนิสัยเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นมิตรกับทุกคนทำให้เขาเป็นที่รู้จัก-เป็นที่รักของครู และนักเรียนที่นี่อย่างมาก”

        “เนตรนภา ผ่านสำแดง” ผู้ปกครองนักเรียน กล่าวว่าลูกสาวได้เรียนภาษาอังกฤษกับครูอาสาคนนี้ ช่วงหลังมีผลการเรียนภาษาอังกฤษในเกณฑ์ดีมาก สามารถสื่อสารอ่าน-พูด-เขียนดีมากกว่าเก่า ต้องขอขอบคุณน้ำใจ ความเสียสละของครูฝรั่งจิตอาสาที่มาสอนภาษาให้กับเด็กๆ อีกทั้งยังคอยดูแลความปลอดภัยทั้งไปและกลับเวลาเด็กๆ เดินข้ามถนนหน้าโรงเรียนเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ

        “นิกร สุกใส” ผวจ.ยโสธร บอกว่า การกระทำของครูฝรั่งจิตอาสาท่านนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะเด็กนักเรียน เขาได้เห็น-เขาได้เรียนรู้ว่าการเสียสละ-จิตอาสาคืออะไร ทุกคนสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม ดังนั้นทุกโรงเรียนควรจะเน้นย้ำเรื่องจิตอาสาสอดแทรกเข้าไปในเนื้อหาความรู้ ให้เขาซึมซับแล้วค่อยๆ ให้เริ่มทำ เพราะการจะสร้างคนให้มีคุณภาพ-ให้เป็นคนดีของสังคมได้ต้องเริ่มจากเด็กและเยาวชน

        เห็นภาพแล้วบอกเลยน่าประทับใจ...สอนภาษาเสร็จเย็นออกมาเป็นจราจรอาสา นี่แหละครูฝรั่งทูอินวัน-ขวัญใจชาวยโสฯ...เขาทำดีเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา...เขาเสียสละเพื่อเด็กและเยาวชนของเรา...อยากบอกว่าชีวิตนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ถ้าจะทำดีเป็นจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่นทำเลย...“อย่าได้แคร์ใคร”

ข้อมูลและภาพจาก dailynews