เปิดประวัติ "ไช่ อิง-เหวิน" ประธานาธิบดีไต้หวัน ผู้หญิงที่ทำให้ไต้หวันพ้นวิกฤติโควิด-19

LIEKR:

เปิดประวัติ "ไช่ อิง-เหวิน" ประธานาธิบดีไต้หวัน ผู้หญิงที่ทำให้ไต้หวันพ้นวิกฤติโควิด-19

    ในวิกฤตโคโรน่าไวรัส เป็นโอกาสให้ผู้นำแต่ละชาติได้แสดงฝีมือในการแก้ปัญหา เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่ากับชาติไหนก็มีลักษณะคล้ายกัน คือปัญหาเรื่องสาธารณสุขและเรื่องเศรษฐกิจ และหนึ่งในชาติที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดนั่นก็คือ ไต้หวัน 

    ไต้หวันเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ห่างจากจีนเพียง 160 กิโลเมตรเท่านั้น แต่กลับสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส ได้อยู่หมัด แม้ว่าก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญได้คาดการณ์ว่าไต้หวันจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโรค Covid-19 เนื่องจากการระบาดตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ชาวไต้หวันจะต้องเดินทางกลับบ้านเกิดกันมากที่สุดครั้งหนึ่งของปี

 

Sponsored Ad

 

    ทว่า ณ วันที่ 13 มี.ค. ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อเพียง 50 ราย และเสียชีวิต 1 ราย แม้ตัวเลขจะน้อยเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น แต่ก็ไม่มีใครกังขาว่าไต้หวันจะปกปิดข้อมูล ทั้ง ๆ ที่เป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยง แล้วทำไมรัฐบาลไต้หวันถึงเอาอยู่

    สาเหตุก็เพราะไต้หวันมีผู้นำที่วางแผนและจัดการปัญหาล่วงหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม อย่าง "ไช่ อิง-เหวิน (蔡英文)" ประธานาธิบดีหญิงของไต้หวัน ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน และเธอก็เพิ่งได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง โดยมีคะแนนเสียงจากประชาชนสูงถึง 57.1%

 

Sponsored Ad

 

ประธานาธิบดีหญิง "ไช่ อิง-เหวิน" 

ประวัติการศึกษาของ ประธานาธิบดีหญิง "ไช่ อิง-เหวิน" 

    - จบปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University) 

 

Sponsored Ad

 

    - จบปริญญาโทที่คอร์เนลล์ มหาวิทยาลัยระดับไอวี่ลีก ที่ประเทศสหรัฐฯ 

    - จบปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยลอนดอน สคูลส์ ออฟ อีโอโนมิกส์ (London School of Economics and Political Science/LSE) ที่ประเทศอังกฤษ

    หลังเรียนจบ "ไช่ อิง-เหวิน" ทำงานเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยวิชากฎหมาย เธอพูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ก่อนจะลงเล่นการเมืองและได้รับเลือกตั้งให้เป็นผู้นำประเทศในที่สุด

ประธานาธิบดีหญิง "ไช่ อิง-เหวิน" 

 

Sponsored Ad

 

    สำหรับมาตรการในการรับมือโรค Covid-19  ผู้หญิงคนนี้ก็น่าสนใจมาก ๆ หน่วยข่าวกรองของไต้หวันรู้เรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้ว่าเกิดขึ้นที่อู่ฮั่น ประเทศจีน ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมปี2019 และเธอก็สั่งลดเที่ยวบินที่เดินทางจากไต้หวัน-จีนน้อยลง และคัดกรองคนที่เดินทางเข้าออกประเทศทันที

    และในช่วงปลายเดือนมกราคม จีนเริ่มมีผู้ติดเชื้อมากขึ้นประมาณร้อยกว่าคน ผู้นำหญิงคนนี้เธอตั้งหน่วยCECC หน่วยป้องกันโรคระบาด เพื่อออกกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ

ประธานาธิบดีหญิง "ไช่ อิง-เหวิน" 

 

Sponsored Ad

 

    จากนั้นในวันที่ 10 มกราคม ณ เวลานั้นที่ประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อเพียง 198 คน ประเทศอื่นยังไม่ทันไหวตัว คิดป้องกันอันตราย แต่ไช่ อิง-เหวิน ได้สั่งจัดตั้งหน่วยงานป้องกันโรคระบาด ชื่อย่อ CECC เพื่อออกกฎหมายเป็นกรณีพิเศษ สำหรับวาระโรคระบาดโดยเฉพาะ

    เธอรู้ว่าอนาคตไวรัสชนิดนี้จะแพร่ระบาดอย่างแน่นอน จากนั้นเธอได้มอบหมายให้ “เฉิน ฉือ-จง (陳時中)” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่เรียนจบปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ เป็นผู้สรุปสถานการณ์ให้ประชาชนฟังทุกวัน พร้อมอธิบายถึงแนวทางของรัฐบาลด้วยว่า จะมีนโยบาลล่วงหน้าอย่างไร เพื่อให้ประชาชนจะได้เตรียมพร้อมรับมือถูก

 

Sponsored Ad

 

"เฉิน ฉือ-จง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน

    ในวันที่ 24 มกราคม จีนมีผู้ติดเชื้อเกิน 1 พันคน ทำให้ไต้หวันเห็นภาพแล้วว่าอีกไม่นาน จีนจะต้องการนำเข้าหน้ากากอนามัยอย่างแน่นอน ดังนั้นไต้หวันจึงสั่งระงับการส่งออกหน้ากากอนามัยทุกประเภททันที และเป็นประเทศแรกของโลกด้วย เพื่อต้องการให้ประชาชนไต้หวันได้เข้าถึงหน้ากากอนามัยทั่วทุกคนก่อน ถ้ามีเหลือถึงจะส่งออก 

Sponsored Ad

    ซึ่งในขณะนั้น “ไช่ อิง-เหวิน” โดนประณามว่าเลือดเย็นหลังสั่งห้ามส่งออกหน้ากาอนามัยให้จีน และประเทศอื่น ๆ เพราะต้องการกักตุนหน้ากากอนามัยไว้จำหน่ายภายในประเทศ ช่วยเหลือพลเมืองตนเองให้ได้มากที่สุด แต่ท้ายที่สุดแล้วบททดสอบนี้บ่งบอกว่าไช่ อิง-เหวินเลือดเย็นหรือเด็ดขาด ก็สุดแท้แล้วแต่สายตาจะมอง 

Photo credit :台灣好新聞

    หลังจากหยุดส่งออกหน้ากากอนามัย "ไช่ อิง-เหวิน" ร่วมกับ "ออเดรย์ ถัง (Audrey Tang)" แฮกเกอร์อัจฉริยะสาวข้ามเพศวัย 38 ปี รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลที่อายุน้อยที่สุด สร้างแอพพลิชั่นสำหรับการซื้อหน้ากากแบบ Interactive กล่าวคือ ไต้หวันต้องการให้ประชาชนเห็นความโปร่งใสว่าหน้ากากที่ผลิตมาจากโรงงาน กระจายไปขายที่ไหนบ้าง

- "ออเดรย์ ถัง" จากแฮกเกอร์ สู่รัฐมนตรีดิจิทัล ผู้กระจายหน้ากากอนามัย ให้ถึงมือประชาชนทุกคน

"ออเดรย์ ถัง" รมต.ดิจิทัล ของไต้หวัน ผู้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ จนปราบโควิด19ได้

"ออเดรย์ ถัง (Audrey Tang)" รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลของไต้หวัน

    รัฐบาลจึงทำแอพพลิชั่นให้มีลิสต์ของร้ายขายยาและจุดจำหน่ายทั้งหมดในประเทศ อัปเดตแบบ Real-Time ว่าแต่ละร้านมีหน้ากากเหลืออยู่เท่าไหร่แล้ว ประชาชนจะได้รู้ว่า "ถ้าจะต้องการซื้อหน้ากาก ควรจะไปซื้อได้ที่ไหน"

Photo credit :TVBS NEWS

    จากนั้นวันที่ 18 กุมภาพันธ์ "ไช่ อิง-เหวิน" ได้ออกกฎหมายให้โรงพยาบาลและคลินิก สามารถเข้าถึงข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศของคนไข้ได้ 100% เพื่อป้องกันกรณีพวกที่แอบเดินทางไปประเทศสุ่มเสี่ยง แล้วอาจจะเป็น Super Spreader หรือผู้ติดเชื้อรายเดียวที่ทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายเป็นวงกว้าง นำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในประเทศได้

    นอกจากนี้รัฐบาลไต้หวันยังได้ออกกฎหมายสำหรับชพลเมืองที่กลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ให้กักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ผู้ใกที่ฝ่าฝืน ละเลยการกักกันตัวเองเป็นเวลา 14 วัน จะถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1 ล้านบาท 

ภาพข่าวจากเว็บไซต์ Liberty Times Net รายงานชายชาวไต้หวัน ถูกสั่งปรับเงินจำนวน 1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 1 ล้านบาท เหตุไม่ยอมกักตัวเอง เพื่อสังเกตุอาการ COVID-19 หลังเพิ่งกลับมาจากจีน (ข่าวต้นฉบับ https://news.ltn.com.tw/news/life/breakingnews/3086777)

    ในส่วนของภาคธุรกิจ ทางรัฐบาลไต้หวันก็ไม่ได้ละเลย รัฐบาลได้ดึงงบกลางราว 2.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7 หมื่น 7 พันล้านบาท เข้ามาพยุงธุรกิจที่กำลังลำบาก 

    อย่างเช่น บริษัททัวร์ เอเจนซี(Agency) ที่ได้รับผลกระทบหนักมาก เพราะเมื่อลูกค้าไปเที่ยวไม่ได้ ทางบริษัทก็ต้องคืนเงินให้ลูกค้า แต่โรงแรมหรือตั๋วเครื่องบินที่จ่ายล่วงหน้าไปแล้ว ไม่สามารถเอาเงินคืนได้ ดังนั้นทางรัฐบาลไต้หวันจึงจ่ายเงินชดเชยให้บริษัททัวร์เหล่านี้ตามสมควร

    หลังจากความพยายามของรัฐบาลไต้หวันป้องกันไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเข้าประเทศเพิ่มเติมได้แล้ว จึงออกนโยบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยมีการให้คูปองร้านอาหาร ตลาดนัดกลางคืนและธุรกิจต่าง ๆ เพื่อไม่ให้บรรยากาศซบเซา รายได้จากต่างชาติอาจจะลดลง แต่อย่างน้อยธุรกิจในประเทศก็สามารถหมุนเวียนได้ ผู้คนกล้าออกมาซื้อของ หรือทานอาหารนอกบ้าน เพราะมั่นใจในความปลอดภัย ว่าทางรัฐจะไม่เอาผู้ติดเชื้อเข้ามาเพิ่มในประเทศอย่างแน่นอน

    ไต้หวันประชากรมีทั้งหมดประมาณ 23 ล้านคน แต่สามารถคุมการแพร่ระบาดให้มีอัตราที่จะแพร่เชื้อเฉลี่ยวันละ 1 คนเท่านั้น (ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อ 67 คน อัพเดตช่วงเที่ยงคืนวันที่ 17 มี.ค.)

    ด้วยกฎหมายและนโยบายต่าง ๆ ที่ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน งัดออกมาแก้สถานการณ์ ทำให้ ณ เวลานี้ไต้หวันได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ปลอดภัยจากโคโรน่าไวรัสมากที่สุดในโลก

    โดยประชาชนชาวเน็ตของไต้หวันได้กล่าวสดุดีว่า "พวกเขาตัดสินใจเลือกประธานาธิบดีได้อย่างถูกคนจริง ๆ " นับว่าระบบการจัดการที่ดีทำให้เธอได้ใจประชาชนชาวไต้หวันไปเต็ม ๆ เลยล่ะ 

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก Workpoint news, misterban, posttoday

บทความที่คุณอาจสนใจ