ชีวิตถูกแม่บังคับแต่เด็ก โตมาเธอจึงเลือกทางเดินของตัวเอง แม้เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด แต่ก็มีความสุข

LIEKR:

มีความสามารถแล้วทำไมจะไม่ทำ

    เธอคือ Lin Wen Yi แฟนๆละครไต้หวันคงคุ้นหน้าเธออยู่บ้าง เช่นจากเรื่อง Taipei Story ในบน Yaxin  เรื่อง Taste of Life ในบท Yan Qiaoling ไม่นานนี้เธอก็รับบทเป็นมือที่สามในเรื่อง The Sound of Happiness ทักษะการแสดงชั้นยอดของเธอนั้นชัดเจน แต่ในชีวิตจริงของเธอต่างออกไปมาก เพราะเธอเป็นนักแสดงที่มองโลกในแง่ดีและรักอิสระ

    Lin Wen Yi ไม่เพียงเล่นละครหลังข่าว แม้แต่ละครวัยรุ่น หรือพิธีกร เธอก็กล้าลอง เมื่อถูก NOWnews สัมภาษณ์ ทุกการเคลื่อนไหวของเธอทำให้นักข่าวรู้สึกว่า เธอเป็น “ผู้หญิงหวานๆ” และ “ไม่กลัวอะไร” ซึ่งแตกต่างจากในละครอย่างมาก จนยากจะเชื่อว่านี่เป็นคนๆเดียวกัน

 

Sponsored Ad

 

    ตั้งแต่ Lin Wen Yi  ได้จัดรายการ The Burning Youth Tours ที่เปลี่ยนมาเป็นเวลาสองทุ่ม เธอก็ตื่นเต้นมาก แม้ว่าตั้งแต่เด็กๆเธอจะถูกอากง อาม่าเลี้ยงดูมา จึงไม่มีปัญหาเรื่องภาษาไต้หวัน แต่การต้องมาเทียบกับผู้อาวุโส Long Shaohua หรือ Lu Xuefeng ก็ทำให้เธอขนลุก ชีวิตที่ต้องถ่ายรายการช่วงสองทุ่ม เธอเล่าว่าเหมือนมีสังคมกลุ่มใหม่ นานๆทีจะได้หยุดสัก 2 วัน พอกลับไปที่รายการทุกคนก็จะคิดถึงเธอ ทุกครั้งจะบอกเธอว่า : "ทำไมหยุดนานจัง เวลาไม่เห็นหน้าไม่คุ้นเลย"

 

Sponsored Ad

 

    ตัว Lin Wen Yi ก็เปิดเผยว่า อยากทำงานเยอะตอนที่ยังเป็นวัยรุ่น ก็เลยรับงานอย่างต่อเนื่อง แต่บางครั้งก็เหนื่อยล้าจากการทำงานจริงๆ พอกลับถึงบ้านน้ำตาก็ร้องไห้โฮ ทำให้พ่อสงสารเธอมาก บอกเธอว่าไม่ต้องทำแล้ว : "กลับบ้านเถอะ พ่อเลี้ยงหนูได้" แต่ต่อมา Lin Wen Yi ก็ตระหนักได้ว่าไม่ว่าอาชีพอะไรล้วนลำบาก แต่เวลาเป็นนักแสดงเธอมีความสุขมาก แค่ร้องไห้พอได้ระบายก็หาย

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อถูกถามว่าเคยผิดหวังเรื่องอะไรบ้าง? Lin Wen Yi ก็ตอบว่า : "ฉันว่าคงเป็นช่วงแรก ตอนที่ผิดหวังตอนไปแคสงานแล้วไม่ได้" แต่ก็กลับมาได้ทันที เธอยังเล่าอีกว่าตอนเรียนมหาวิทยาลัย มีบางวิชาที่เลือกไม่ทันต้องรอไปเรียนปีหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ "เทียบกับหลายคนแล้ว ฉันถือว่าโชคดีมาก ไม่ว่าจะเล่นละคร หรือเป็นพิธีกร มีโอกาสในการทำงานมากมาย" เธอรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมาก

    Lin Wen Yi เป็นลูกสาวคนเดียว แต่เธอไม่เอาแต่ใจ แถมยังเป็นคนต่อสู้พยายามเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ส่วนเรื่องการอบรมสั่งสอนในครอบครัว คือ "แม่พูดแล้วคือจบ" เธอถูกปลูกฝังมาตลอดว่า "สอบได้ที่ 1 ให้แม่ก็พอแล้ว" มีอยู่ครั้งนึงเธอถามแม่ ทำไมต้องให้สอบได้ที่ 1 แม่พูดอย่างมั่นใจว่า : "ถ้าหนูไม่มีความสามารถ แม่ก็ไม่ขอให้หนูสอบได้ที่ 1 แต่ในเมื่อหนูมีความสามารถขนาดนั้น แล้วทำไมจะไม่สอบให้ได้ที่ 1"

 

Sponsored Ad

 

    พอฟังๆดูก็เหมือนจะมีเหตุผล ทำให้เธอมีผลการเรียนอยู่ในแนวหน้ามาโดยตลอด แต่ Lin Wen Yi ก็ยังไม่ชอบเรียนหนังสือ "ฉันต้องบอกว่า ฉันเป็นเด็กที่มีดวงด้านการสอบ" ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย พ่อกับแม่อยากให้เธอเรียนด้านธุรกิจ แต่เธอก็เกลียดเลขมาก เธอจึงต้องพยายามอ่านหนังสือย่างหนัก เพื่อสอบเข้ามหาลัยแห่งชาติไต้หวัน แล้วก็ปรึกษากับพ่อแม่เพื่อขอเรียนคณะที่ชอบ

 

Sponsored Ad

 

    เมื่อเข้าคณะการแสดงได้ เธอต้องเรียนรู้เรื่องแสง เครื่องแต่งกาย การออกแบบเวที ตอนแรกเธอไม่ได้อยากเป็นนักแสดง แต่มีครั้งนึงที่เธอตกอยู่ในภวังค์เพลิดเพลินไปกับเสียงปรบมือจากผู้ชมในระหว่างการแสดง รู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เธอถึงได้เข้าใจว่าตัวเองรักการแสดง

    แต่หลังจากเข้าวงการ สภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปมาก เธอรู้สึกสับสน แต่หลังจากได้ยินประโยคหนึ่งจากอาจารย์ “การแสดง ถ้าคุณชอบมากจริง ไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็เหมือนกัน” เธอก็ค่อยๆหลุดพ้นออกจากหมอกควัน ค้นพบเส้นทางของตัวเอง และเปล่งประกายต่อไปในวงการบันเทิงที่เธอเลือก

.

.

ที่มา : nownews | เรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ