เธอไม่เคยพูดคำว่า "รักพ่อแม่" จนเมื่อพูดออกไป ถึงได้รู้ว่ามันดีมาก รีบบอกรักก่อนที่จะไม่มีวันนั้น

LIEKR:

"ขอบคุณที่รักและทะนุถนอมหนูเหมือนลูกแท้ๆ”

    สื่อต่างประเทศรายงาน เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ไต้หวันได้มีละครเวที "The Seventy-Three Change" ที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเนื่องจากละครเรื่องนี้เป็นชีวิตในตำนานที่ดัดแปลงมาจากนักร้องโอเปร่าที่มีชื่อเสียงของปักกิ่ง จูเจียฮาว จึงเพิ่มอารมณ์ความรู้สึกที่ลึกซึ้งให้กับการแสดงได้มาก

    ยิ่งไปกว่านั้นคือนักแสดงหญิงชาวไต้หวันผู้มีความสามารถ เหมียวเคอลี่  ก็มีส่วนร่วมในการแสดงครั้งนี้กับพ่อแท้ๆของเขาด้วย นับว่าเป็นการแสดงที่มีคู่ต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมมาก และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกสาวในครั้งนี้ ทำให้ เหมียวเคอลี่ เริ่มตระหนักถึงความสัมพันธ์ของเธอกับพ่อแม่มากขึ้น

 

Sponsored Ad

 

    ในช่วงก่อนหน้านี้เหมียวเคอลี่ล้มป่วยระยะหนึ่ง เธอรู้มาก่อนหน้าที่จะแสดงละครเวทีว่าตนเองไม่ใช่ลูกแท้ๆของพ่อ ทำให้พ่อประหลาดใจมาก สิ่งที่พิเศษที่สุดเกี่ยวกับฉากนี้คือ เมื่อใเหมียวเคอลี่พูดถึงประโยคในฉากที่ว่า "ขอบคุณที่รักและทะนุถนอมหนู” ในเวลานั้นเธอหลั่งน้ำตาจนนองหน้า เพราะเธอนึกได้ว่าแม้ว่าตนเองมักพูดคิดปากเสมอว่า "รักพ่อแม่" แต่ก็ไม่เคยพูดว่า "หนูรักพ่อ หรือหนูรักแม่เลย" 

 

Sponsored Ad

 

    จนหลังจากแสดงละครเวทีเรื่องนี้เธอก็เปิดเผยว่า “รู้ไหมว่าการเปิดปากพูดคำว่า “รัก” นั้นจำเป็นต้องผ่านการฝึกฝนมากก่อน แม้ว่าที่จริงฉันก็รักพวกเขามาก แต่ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากันก็มักพูดไม่ออก” และในครั้งนี้ที่เชิญพวกเขามาชอบละครเวที ก็ใช้คำพูดเหมือนหยอกล้อในการบอก “รัก”  นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดออกมาอย่างกล้าหาญ ที่จริงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกของพวกเขานั้นแน่นแฟ้นมากอยู่แล้ว มีความทรงจำที่ดีกับคนที่บ้านเสมอ แต่ครั้งนี้ทำให้เธอประทับใจมาก

    เหมียวเคอลี่มีพี่ชาย 2 คน และพี่สาวอีก 1 คน มีเพียงเธอเท่านั้นที่มีพรสวรรค์ด้านการแสดง เธอไม่ชอบเรียนหนังสือตั้งแต่เล็ก แม้จะเป็นเช่นนี้พ่อแม่ก็ไม่เคยคิดว่านี้คืออุปสรรค์แต่อย่างใด หลังจากที่เธอเข้าวงการบันเทิง ทุกครั้งที่ไปออกรายการก็จะมีพ่อหรือแม่ไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานสังสรรค์ต่างๆ พ่อก็จะเป็นคนขับรถไปส่งเสมอและก็จะมีคุณแม่นั่งข้างตามไปด้วย หากพ่อไม่ว่างไปส่งก็จะมีแม่ที่นั่งรถไปส่งด้วย พวกเขาไม่เคยบอกว่านี้คือเรื่องลำบากอะไรเลย

 

Sponsored Ad

 

    

    เธอเล่าว่าตนเองตอนนี้ยังอายุน้อย จึงไม่คิดเห็นใจพวกเขาในความลำบากที่ต้องติดตามไปไหนมาไหนด้วย หลังจากเสร็จงานเธอก็ขอร้องอยากจะกินเนื้อสเต๊กหรือ โบกรถเท็กซี่ไปแทน แต่ก็โดนปฏิเสธเสมอ ทำให้เธอโมโหมาก ตอนเล็กๆเธอมันเป็นคนที่ไม่มีเหตุผล แต่หลังจากโตมากขึ้นก็รู้สึกเสียใจมากที่ทำตัวแบบนั้น 

 

Sponsored Ad

 

    นอกจากนี้มีครั้งหนึ่งที่เธอมีความคิดเห็นไม่ตรงกับแม่เรื่องเสื้อตัวละ 4000 บาท จึงทิ้งแม้ไว้ และอีกครั้งหนึ่งตอนไปเที่ยวญี่ปุ่น เป็นเพราะการนำเส้นทาง ทำให้เหมียวเคอลี่ทิ้งแม่ไว้หลังสุด ในตอนนั้นเธอคิดได้ในทันทีว่าตนเองก็เคยทำเช่นนั้นกับแม่เหมือนกัน จึงรู้สึกเสียใจกับการกระทำในครั้งนี้มาก

    ที่จริงเธอไม่กล้าบอกรักพ่อแม่ ไม่กล้าพูดคำซื้งๆในใจออกมา ฉะนั้นเธอจึงหนุนใจว่าการจะเป็นลูกที่ดีนั้นต้องผ่านการฝึกฝนมาด้วย และไม่อยากให้ลูกๆทุกคนต้องมานั่งเสียใจกับวันเวลาที่ผ่านไป ให้เรียนรู้ที่จะบอกรักพ่อแม่ให้มาก หวงแหนช่วงเวลาที่ดีกับพ่อแม่ไว้ 

 

Sponsored Ad

 

    ในการ “บอกรัก” นั้นไม่เพียงแค่พูดยังต้องมีกิริยาท่าทางด้วย เช่นการเข้าไปกอดเวลาบอกรัก ถ้าคุณไม่ทำวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะไม่มีโอกาสแล้วก็ได้ ใครจะไปรู้ จริงไหมค่ะ? ฉะนั้นอย่าลืมใช้เวลากับพ่อแม่ ญาติพี่น้องให้มากนะคะ

ที่มา : buzzhots

แปลและเรียบเรียงโดย LIEKR

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ