เปิดเรื่องจริงของ "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" หนุ่มติสท์ติดดิน ผู้ชายในฝันของสาวหลายๆคน

LIEKR:

เปิดเรื่องจริงของ "ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์" หนุ่มติสท์ติดดิน ผู้ชายในฝันของสาวหลายๆคน

 หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ  

    ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ หนุ่มหล่อ ตลกอาร์สติส อารมณ์ดี ขวัญใจของสาวๆหลายคน เรียกได้ว่าฝีมือการแสดงไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว โดยแจ้งเกิดในบทบาท ไข่ย้อย เรื่องเพื่อนสนิทที่เคยสร้างประทับใจให้ชาวหนังได้ตามกัน และผลงานอีกมากมายหลายบทบาท ซึ่งได้รับการชื่นชมอยู่ไม่ขาด

    ด้านไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของซันนี่ก็เป็นที่น่าสนใจ เป็นถึงซุปตาร์แต่ใช้ชีวิตชิลล์ๆ กลายเป็นเสน่ห์ของเขาไปโดยปริยาย ใส่แตะเดินสวนซื้อเสื้อผ้ามือสอง วันนี้ LIEKR ขอรวบรวมเรื่องเกี่ยวกับซันนี่ในอีกหลายแง่มุมที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้มาก่อนมาให้ได้อ่านกันค่ะ

 

Sponsored Ad

 

    ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ เกิดวันที่  18 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 ปัจจุบันอายุ 39 ปี เป็นลูกครึ่ง 3 เชื้อสาย ไทย สิงคโปร์ และฝรั่งเศส แต่เกิดและเติบโตในประเทศไทย เรียนจบชั้นประถม-มัธยมปีที่ 3 ที่โรงเรียนพระมหาไถ่ศึกษาจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมปีที่ 4-6 จาก โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี หลังจากนั้นเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

 

Sponsored Ad

 

    คุณพ่อชื่อ เพ็ชร์รัตน์ สุวรรณเมธานนท์ ลูกครึ่งไทย-สิงคโปร์ อดีตกัปตันสายการบินเอกชนแห่งหนึ่ง ส่วนคุณแม่ชื่อนางมาจอลิน เป็นสตรีชาวฝรั่งเศสลูกท่านทูตทหาร ซันนี่มีพี่น้อง 3 คน เขาเป็นลูกคนเล็ก มีพี่สาวชื่อ ภาวินี และ พี่ชายชื่อ ไมเคิล (ซันนี่ไม่ค่อยชอบชื่อตัวเอง แต่ชอบชื่อของพี่ชาย ที่ชื่อว่า ไมเคิล มากกว่า)

    เมื่อตอนประมาณเขาเรียนอยู่ชั้น ม.5 (ตอนนั้นเรียนที่ ร.ร.สุรศักดิ์มนตรี) ที่บ้านเกิดเหตุการณ์ล้มละลาย เพราะที่บ้านโดนโกง เขาเล่าว่า ครั้งแรกที่เขาได้รู้คือกลับบ้านมาแล้วไฟดับ แต่ก็คิดว่าเดี๋ยวก็มา แต่แล้วดับเป็นวันก็ยังไม่มาเลยไปถามแม่ ก็เลยรู้ว่าที่บ้านโดนตัดไฟเพราะไม่มีเงินจ่าย

 

Sponsored Ad

 

    ตอนไปเรียนซันนี่รู้สึกว่าไม่สนุก ไม่ชอบเรียนอยู่ในห้อง มาโรงเรียนเพื่อไปเรียนกับเพื่อนๆ แต่เวลาเรียนก็สามารถทำความเข้าใจ สอบผ่านไปได้ เพราะรู้สึกว่าการเรียนเป็นสิ่งที่ต้องรับผิดชอบ และไม่เคยคิดที่จะโดดเรียน หรือทำตัวเกเร เพราะเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี และคิดอีกว่าครอบครัวส่งให้มาเรียน และถ้าไม่มีความรับผิดชอบเรียนให้จบก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ครอบครัวเดือดร้อนไปด้วย

 

Sponsored Ad

 

    ตอนเรียน ซันนี่ก็พยายามคิดว่าจะเรียนไปแล้วจบไปทำอะไร แต่เขาก็ไม่รู้ตัวเองว่าอยากทำอะไร แต่สิ่งหนึ่งที่เขานึกและทำได้เสมอคือ การเป็นคนดี 

    สาเหตุที่บ้านล้มละลาย ก็มีผลกระทบต่อการเรียนในช่วงมหาลัยของซันนี่ ที่เขาเรียนจบช้าเพราะว่าลงเรียนได้ไม่กี่ตัว ถ้าลงพร้อมกันหลายๆ ตัว เงินจะไม่พอจ่าย ซึ่งเขาได้เข้าเรียนที่เอแบค เป็นที่ทราบกันดีว่าที่นี่ค่าเทอมค่อนข้างจ่ายสูง ตอนเรียนเคยเรียนได้ยังไม่จบเทมอก็เคยต้องดรอปมาแล้วก็มีเพราะเงินไม่พอจ่าย

 

Sponsored Ad

 

    พี่ชายแท้ๆ กับซันนี่ตอนเด็ก ซันนี่รักพี่ชาย พี่สาวมาก เพราะทั้ง 2 คนนี้ โดยเฉพะาพี่ชายต้องเสียสละไปทำงานเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือที่บ้าน รวมถึงส่งเขาเรียนด้วย ทำให้พี่ชายของเขาไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ

 

Sponsored Ad

 

    ช่วงเรียนมหาลัย ซันนี่ก็มีออกไปหารายได้พิเศษ (แต่เขามีความคิดที่ว่าการออกไปทำงานพิเศษถ้าไม่ได้อะไรที่กลับมาคุ้ม สู้ไปตั้งใจเรียนอย่างเดียวให้จบเร็วๆ จะคุ้มกว่ากับการที่ต้องมาทำสองอย่างในเวลาเดียวแต่ไม่ได้ดีสักอย่าง) แต่ด้วยจังหวะโชคดีของแล้วเกิดได้รายได้เยอะ ซึ่งในวงเขารับหน้าที่เล่นกีตาร์ และร้องคอรัสทำอยู่ 3 ปี จนถึงช่วงเข้าวงการแรกๆ ซันนี่ก็ไม่ได้อยู่วงต่อ

    ผลงานในวงการบันเทิงชิ้นแรกคือการเล่นโฆษณา ทูน่าสเปรด  จากนั้นก็มีผลงานโฆษณาตามมาเรื่อยๆ และยังได้เล่น นอกจากนี้ยังเล่น MV เพลง คนไม่เอาถ่าน และ คนหลงทาง ของวงบิ๊กแอส ด้วย

Sponsored Ad

    จุดเริ่มต้นงานแสดงภาพยนตร์ เกิดจากที่ครูเงาะเห็นซันนี่จากในโฆษณา และได้โทรชวนให้มาเล่นหนังเรื่องเพื่อนสนิท ในตอนแรกซันนี่กลัวโดนหลอกจึงปฏิเสธ แต่ครูเงาะก็ยังโทรชวนอีกรอบ ซันนี่ก็ตกลง ในตอนแรกที่เขาลังเลเพราะคิดว่าตัวเองอ้วนมากหนักถึง 80 ก.ก. ด้วยความที่เล่นดนตรีดึกกินเยอะ

    พอตกลงรับเล่น เขาก็ทำการลดน้ำหนักจาก 80 เหลือ 64 ก.ก. โดยมีทีมงานช่วยเรื่องการลดน้ำหนัก สาเหตุนี้แหละที่ซันนี้รับเล่นภาพยนตร์เพราะคิดว่าจะได้ลดน้ำหนัก และคิดว่าต้องได้เล่นแน่ๆ เพราะทีมงานบอกว่าลดได้จะเกิดกล้อง

ดากานดา ผู้หญิงอันเป็นที่รัก และไข่ย้อย

    ภาพยนตร์เรื่องแรก เพื่อนสนิท ได้รับความประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก ทุกคนจำชื่อเขาได้ใน ไข่ย้อย จากนั้นมาซันนี่ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงฝีมือคุณภาพในงานแสดงของเขาทุกเรื่อง มีความสมจริง ถ้าต้องแสดงเป็นคนอ้วนก็อ้วนจริง ถ้าผอมก็ผอมจริง และอีกหนึ่งงานแสดงที่ยังได้รับการจดจำมาถึงทุกวันนี้คือซิทคอมเรื่อง เนื้อคู่ประตูถัดไป

    ปัจจุบันเขาอยู่ในวงการมา 16 ปี และมีผลงานภาพยนตร์มาแล้วหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่ผลงานการแสดง หลายๆ คนอาจยังไม่เคยรู้ว่า ซันนี่เคยเป็นผู้กำกับด้วย อาทิ หนังสั้นเรื่อง สัมผัส ตอน บันทึกกรรม ช่อง 3 ทั้งกำกับและเขียนบทเอง, หนังสั้นเรื่อง เรื่องระหว่างทางโครงการกรุงเทพเมืองสีขาว หลักสูตร โตไปไม่โกง กำกับและเขียนบทเอง, Wedding Presentation ของ ไอซ์และแบงค์ แบล็ควนิลา Aiz-Bank’s Wedding Video Presentation กำกับและเขียนบทร่วมกับนิว อิทธิศักดิ์ นอกจากนี้ยังเคยมีซิงเกิ้ลร้องเพลงประกอบผลงานการแสดงของเขาด้วยนะ ท้ายๆ บทความมีสรุปผลงานให้ค่ะ

เดิมทีซันนี่เคยนับถือศาสนาคริสต์ แต่ปัจจุบันไม่ได้นับถือศาสนาใด

ในวัยเด็กไม่เคยมีความฝันที่จะมาเป็นนักแสดงมาก่อน และย้ายบ้านบ่อยมาก

    ปัจจุบันซันนี่ครองความโสดมาหลายปีแล้ว สถานะหัวใจตอนนี้คือไม่มีใคร ในเรื่องของความรัก เขารู้สึกว่าตัวเขาเองเป็นผู้ชายที่ดูแลเทคแคร์ไม่เก่ง และเขาเคยชินกับการไปไหนคนเดียว ทำอะไรคนเดียว เป็นความรู้สึกจากเมื่อตอนเด็กๆ ที่บ้านล้มละลายด้วยว่า ต้องพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด เขายังบอกอีกว่าชีวิตคนเราต้องสามารถดูแลตัวเองได้ ถ้าคนเรารักกันชอบกัน ก็ค่อยมาอยู่ด้วยกัน

สเปคสาวๆ นี่คงเป็นสิ่งที่แฟนๆ อยากรู้ ซันนี่เผยว่า ไม่มีสเปค เพราะทุกคนเพอร์เฟคในแบบตัวเองอยู่แล้ว แต่อยู่ที่ว่ารักกันชอบกันแล้วอยู่ด้วยกันได้หรือเปล่า และอีกหนึ่งสิ่งที่ซันนี่ไม่ทำแน่ๆ คือ ไม่หลอกใครและไม่เอาเปรียบใคร

ใครอยากเจอซันนี่ไปเดินแถวสวนจตุจักร เพราะเป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดโปรด เขาจะไปที่นั่นเพื่อช้อปปิ้งเสื้อผ้ามือ 2 เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะคุ้นหน้าเขาดี การแต่งกายซันนี่คือธรรมดาๆ เสื้อยืด กางเกง ใส่แตะไปเดินเลยแบบชิลล์ๆ

ยอกจากนี้ซันนี่ยังเป็นทาสแมวตัวจริงอีกด้วย 

.

.

.

.

.


ชมคลิป เปิดใจซันนี่

คลิปเปิดไม่ออก >>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<

ที่มา : sunny_suwanmethanont

บทความแนะนำ More +

บทความที่คุณอาจสนใจ