หมายเหตุ : สามารถรับชมคลิปข่าวเพิ่มเติมได้ที่ด้านล่างบทความค่ะ 

    หลายคนคงจะคุ้นหน้า คุ้นตากันดี สำหรับตลกดาวรุ่งพุ่งแรงอย่าง "อาไท กลมกิ๊ก" ที่เจ้าตัวนั้นเข้าวงการมาตั้งแต่เด็กๆ โดยอาไทได้มาเปิดใจ ถึงเส้นทางการเป็นตลก รวมไปถึงชีวิตความลำบากในอดีตที่ตนต้องเผชิญ ข้นแค้นถึงขั้นไข่ต้ม 1 ฟองแบ่งกันกินทั้งบ้าน !

เล่นตลกตั้งแต่อายุ 3 ขวบ?

    อาไท : “3 ขวบครึ่งครับ จริงๆ ชอบด้วยครับ เพราะว่าดูพ่อตัวเองในทีวี ดูจนจำได้มายืนพูดมุกกับตัวเองหน้ากระจก แล้วพ่อมาเห็น เขาก็เลยไปบอกลุงที่ทำคณะอยู่ด้วยกัน ก็เลยลองเอาผมไปขึ้นเวทีพระราม9 วันนั้นเลย ตอนนั้นยังคิดอะไรไม่ได้ แต่จำได้ถ้าเขาพูดประโยคนี้เราต้องตอบประโยคนี้”

นอกจากชอบตลกแล้ว เราต้องช่วยทางบ้านด้วย ต้องมีรายได้ ทางบ้านลำบากไหม?

    อาไท : “ลำบากมากครับ ตอนนั้นที่บ้านผม 4 คน มีผม มีพี่สาว มีพ่อ มีแม่ ตอนนั้นผมเด็กมาก ผมได้ฟังพ่อเล่ามาอีกที บ้านเนี่ยกับข้าวมื้อแรกมีข้าวกินกัน 4 คน แต่กับข้าวเป็นไข่ต้ม 1 ใบ มื้อเช้าก็แบ่งกัน มื้อที่ 2 ก็จะมีข้าวแล้วไข่ต้มอีก 1 ใบ มื้อที่สาม มื้อเย็นจะเหมือนเดิม ไข่ต้ม 1 ใบ แต่จะมีคนเอ็นดูครอบครัวผม เขาก็จะให้ปลากระป๋องมา 1 กระป๋อง อยู่อย่างนั้นตั้งแต่เกิดเลย จริงๆ บ้านลำบากถึงขั้นที่ตอนแม่ท้องผม แม่กินยาขับผมออก แต่ผมไม่ออก พ่อจับได้ว่าแม่กิน พ่อไม่ให้กิน พ่อบอกว่าเลี้ยงได้”

น้อยใจไหม?

    อาไท : “ไม่เลยครับ ก็รู้สึกว่าได้เกิดมาแล้ว”

ตอน 3 ขวบครึ่งมีความฝัน พอได้ขึ้นเวทีวันหนึ่งต้องได้อยู่ในจอทีวี?

    อาไท : “ผมคิดอย่างนั้นว่าวันหนึ่งต้องได้อยู่ในจอทีวี จริงๆ เห็นพ่อตัวเองอยู่ ด้วยความที่ผมเห็นก็อยากไปอยู่ในนั้นบ้าง ก็เป็นความฝันความฝันหนึ่งที่วันนี้เป็นจริง ต้องขอบคุณลุงจตุรงค์ พี่นุ้ย เชิญยิ้ม ลุงโป๊งเหน่ง เชิญยิ้ม ตอนนั้นผมไปเล่นตลกของงานศพตลกท่านหนึ่ง แล้วลุง 3 คนนี้เขาก็เห็นว่าเราเล่นได้ เขาก็เลยรวมบรรดาลูกๆ ตลกไปออกรายการหนึ่ง พิธีกรคือ ลุงกิ๊กกับลุงติ๊ก ลุงกิ๊กก็ชอบ เขาก็เลยเอาไปออกรายการกลมกิ๊ก มันก็เลยเป็นนามสกุลผมจนถึงปัจจุบัน พอหลังจากนั้นก็มีโอกาสหลายๆ อย่างเข้ามา”

แต่มีช่วงหนึ่งที่เล่นอะไรไปก็ไม่ฮา?

    อาไท : “ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เสียใจ ตอนนั้น 8 ขวบ พึ่ง 9 ขวบ ผมไปออกรายการเกมโชว์ ต้องไปเจอกับพี่ๆ ที่เขามีชั่วโมงบินสูง เขาก็พูดเล่นอะไรกัน เพราะเขาอยู่มานานแล้ว เราเป็นเด็กใหม่ ไม่ชิน ปกติอยู่บนเวทีก็จะมีล็อกนู้น ล็อกนี้ให้เล่น ซึ่งผมเป็นตลกที่ไม่แทรกคน ผมแทรกไม่เก่ง แล้วผมไม่กล้าด้วย ผมยืนเขินๆ หลายรายการที่ผมเป็นแบบนี้ จนมีผู้ใหญ่เรียกคุยว่าถ้าผมเป็นแบบนี้เขาไม่ต้องจ้างผมก็ได้ เขาจ้างมาสคอตมายืนก็ได้ ผมได้ยินคำนั้นตอน 9-10 ขวบ ผมแบบ… คือผมพยายามนะ อยากเล่น แต่เราเล่นไม่ได้ เพราะมุกปกติคือต้องส่ง รับ ตบ แต่ด้วยความที่มันเป็นเกมโชว์มุกต้องจบตั้งแต่ตอนแรกที่พูด ผมเลยเล่นไม่ได้ช่วงหนึ่ง แต่ผมไม่ท้อ ดูรายการให้เยอะ ก็ยอมรับว่าร้องไห้ ผมโดนกดดันจากผู้ใหญ่ด้วย พ่อตัวเองก็กดดัน”

เขาว่าตลกที่ชื่ออาไทมีความเจ้าชู้ 10% คบทีเดียว 10 คน?

    อาไท : “ผมคงไม่หล่อปานนั้น”

คุณเคยคุยกับผู้หญิงทีเดียว 10 คนจริงไหม?

    อาไท : “ไม่จริงครับ ผมคุยทีละคน ถ้าคุยหลายๆ คนเขาเรียกประชุม ผมเคยคุยเยอะสุด 6 คน โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์รถไฟชนกัน ที่ผมคุย 6 คนนี่ไม่ใช่แฟนนะ ก็เป็นคนคุย นั่นคือเรื่องอดีต ปัจจุบันผมคุยกับใครผมคุยคนเดียว ผมรู้สึกว่ามีช่วงหนึ่งผมอยู่ออฟฟิศ ผมทำงานมันไม่มีเวลานึกถึงเรื่องผู้หญิงเลย แล้วผมอยู่ได้”

ชอบรุ่นพี่ในวงการคนหนึ่ง?

    อาไท : “ผมปลาบปลื้ม ผมเจอเขาในรายการ รายการนึงเขาเป็นผู้หญิงที่น่ารักมาก เพราะผมชอบผู้หญิงมีแก้ม”

ปลื้มไม่เท่าไหร่ แต่ไปเฝ้าเขาในสตูฯ เนี่ย?

    อาไท : “คือจริงๆ รายการที่เขาถ่ายผมก็ดูอยู่แล้ว แล้วอยากไปดูสดสักครั้งหนึ่ง แล้วเวลาเขาถามว่ามาทำอะไร ผมก็บอกว่ามาหาพี่หอยครับ”

ชมคลิป

คลิปเปิดไม่ออก >>>>> กดตรงนี้ คลิ๊ก !!!! <<<<<

ข้อมูลและภาพจาก คุยแซ่บ Show