LIEKR:
ปัญหาคาใจสาวยุคใหม่
คู่รักที่กำลังคบหาดูใจกันนั้น มักต้องพบเจอปัญหาหลายด้านที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น ค่านิยมที่แตกต่างกัน, วิธีการสื่อสารและเอาชนะความยากลำบากร่วมกัน
(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
Sponsored Ad
สื่อต่าประเทศเปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้เอง มีชาวเน็ตชาวไต้หวันคนหนึ่งได้โพสต์ เล่าเรื่องราวปัญหาที่ตนเองเพิ่งประสบมา เธอเล่าว่า ฝ่ายชายมีหน้าที่การงานที่ดี จบดอกเตอร์ เงินเดือน 70,000 ++ ดอลลาร์ไต้หวันขึ้นไป (ประมาณ 74,292 บาท) หน้าตาดี เรียกได้ว่าดีทุกอย่าง แต่มีอยู่อย่างเดียวที่เธอไม่เข้าใจก็คือ ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนด้วยกันก็มักจะโดยสารรถไฟฟ้า หรือไม่ก็ การขนส่งสาธารณะเสมอ ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยพอใจในสิ่งนี้เป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่อยากจะนั่งแต่รถไฟฟ้าทุกครั้ง
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
ทุกครั้งที่จะออกไปเที่ยวด้วยกันเธอก็มักจะหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดเสมอ และเธอก็มักจะพูดว่า “ฉันแค่หวังว่า คุณจะซื้อรถยนต์สักคันไว้ใช้ เป็นรถยนต์ผลิตในประเทศก็ได้ ราคาประมาณ 700,000 เท่านั้นเอง (ประมาณ 742,900 บาท) คำขอร้องแค่นี้มันมากเกินไปหรอ?”
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
โดยเธอได้โพสต์ในเพจท้องถิ่นของไต้หวัน ทันทีที่เธอโพสต์ออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในสิ่งที่เธอถาม เธอยังบอกอีกว่า “ฝ่ายชายไม่ยอมขับรถ ชอบโดยสารรถไฟฟ้ามาก” สิ่งนี้ทำให้เธอไม่เข้าใจความคิดของแฟนหนุ่มเป็นอย่างมาก หลังๆ มาเรื่องนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับทั้งสองคนเป็นอย่างมาก
(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
Sponsored Ad
มีชาวเน็ตบางคนก็คอมเมนต์ไปว่า “หากพวกคุณไม่ได้แต่งงานมีลูก การซื้อรถยนต์นั้นค่อนข้างสิ้นเปลืองมาก เพราะในสังคมเมืองไต้หวัน การขับรถยนต์ออกบ้าน ต้องคำนึงถึงหลายอย่างมาก ทั้งที่จอดรถที่แสนจะหายาก ทำให้เวลาจะเลือกไปเที่ยวที่ไหนก็ต้องคำนึงถึงสิ่งนี้เป็นอันดับแรก”
“ในเมืองหลวงของไต้หวันการคมนาคมสะดวกมาก ไม่จำเป็นต้องซื้อรถยนต์เลย”
“ฉันคิดว่าความจำเป็นในการซื้อรถยนต์นั้นต่ำมาก”
“ก็คิดได้สองแง่ ถ้าจะไปเที่ยวนอกเมืองมันก็สะดวกกว่ามาก แต่ถ้าอยู่แค่ในเมืองก็ไม่จำเป็น”
Sponsored Ad
(เป็นเพียงภาพประกอบเนื้อหาเท่านั้น)
แล้วคุณคิดว่าถ้าแฟนไม่มีรถยนต์ขับคุณจะรับได้ไหม? แล้วควรจะคบต่อหรือหยุดแค่ตรงนี้ดี? ช่วยเธอคิดหน่อยว่าสิ่งที่เธอขอร้องนั้นมากไปไหม?
ที่มา : TVBS | เรียบเรียงโดย LIEKR
